“บิ๊กรัง” นายกกอล์ฟ ประกาศมั่นใจสวิงไทยฟัน 4 เหรียญทอง สู้ศึก “ซีเกมส์ กัมพูชา”

Photo of author

สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย (สกท.) ประกาศชื่อ 7 ขุนพลสวิงทีมชาติไทยทั้งชายและหญิง พร้อมสต๊าฟฟ์โค้ช ลุยซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา “บิ๊กรัง” รังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคม มั่นใจเด็กทำได้ ตั้งเป้ากวาด 4 เหรียญทอง โดยการเปิดตัวครั้งนี้จัดขึ้น ณ สนามกอล์ฟปัญญาอินทรา กอล์ฟ คลับ เมื่อวันอังคารที่ 2 พฤษภาคม 2566

หลังจากทีมนักกีฬาชุดนี้ได้ฝึกซ้อมซ้อมเตรียมทีมกันมาเป็นเวลานาน ผ่านการคัดเลือกจากนักกีฬาในโครงการทีมชาติไทยทั้งหมด ที่ทางสมาคมได้บ่มเพาะ และสร้างนักกีฬาเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติเสมอมา โดยทีมชุดนี้ได้ เบนซ์ เพศประเสริฐ รับหน้าที่ผู้จัดการทีม โดยมี ปรีชา เสนาพรหม รับหน้าที่ผู้ฝึกสอนทีมชาย ษาริณี เล็กสุวรรณ รับหน้าที่ผู้ฝึกสอนทีมหญิง โดยมี พีรวัชร เวียงคำ และ นรุตม์ชัย อุ๋ยวัฒนาไชย ทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน

ล่าสุดเมื่อเมื่อวันอังคารที่ 2 พฤษภาคม 2566 ได้ประกาศตัวนักกีฬาทีมชาติชุดเล่นซีเกมส์ครั้งนี้อย่างเป็นทางการ ประกอบไปด้วย ทีมชาย 4 คน “ไป๋” อาศิษฐ์ อารีพันธ์ หนุ่มจากเชียงราย วัย 20 ปี, “ฟลุ๊ค” จิรเดช เชาวรัตน์ จากชลบุรี วัย 21 ปี, “หิน” อชิตะ เปี่ยมกุลวนิช จากสมุทรปราการวัย 20 ปี และ “ทีเค” รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ วัย 16 ปีจากกรุงเทพฯ ด้านทีมหญิง 3 คน “ปริม” ปริม ปราชญ์นคร นักกอล์ฟสาววัย 15 ปีจากกรุงเทพฯ, “แพงกี้” แอลล่า แกลิทสกีย์ นักกอล์ฟสาววัย 17 ปีจากเชียงใหม่ และ “น้ำผึ้ง” นวพร สุนทรียภาส นักกอล์ฟสาววัย 18 ปีจากกรุงเทพฯ

สำหรับการแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งนี้ชิงชัยกัน 4 เหรียญทองทั้งในประเภททีม 2 เหรียญทองชาย-หญิง และประเภทบุคคล ชายหญิง โดยตั้งแต่วันที่ 8-10 พฤษภาคม เป็นการชิงชัยในประเภทบุคคล ก่อนวันที่ 11-13 ชิงชัยในประเภททีม

“บิ๊กรัง” รังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า “ขณะนี้ทีมมีความพร้อมเต็มที่ เราเคยไปสัมผัสสนามแข่งขันมาแล้วถึง 2 ครั้ง สนามมีสไตล์คล้ายกับบ้านเรา เป้าหมายของเราคือการคว้า 4 เหรียญทอง ครั้งนี้หวังแก้ไขจุดที่ผิดพลาดจากหนก่อนให้ได้ โดยเฉพาะในเรื่องสภาพจิตใจ พูดถึงภาพรวมเราเป็นต่อทุกๆทีม แม้ว่าหลายทีมจะมีการดึงนักกีฬาที่เล่นในต่างประเทศกลับมาช่วยทีมโดยเฉพาะทีมเจ้าภาพกัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งเรามองว่านักกีฬาของเราพร้อมกันทุกคน และน่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้”

“แพงกี้” แอลล่า แกลิทสกี้ย์ สวิงสาววัย 17 ปี ที่คว้าเหรียญทองจากการแข่งขันประเภททีมซีเกมส์ครั้งก่อนที่ เวียดนาม เผยถึงความพร้อมในการเข้าร่วมแข่งขันว่า “มีความกดดันอยู่บ้าง แต่เชื่อมั่นว่าซ้อมกันมาเยอะ อีกทั้งมาเล่นครั้งนี้เป็นหนที่ 2 ใน ซีเกมส์แล้วน่าจะนำเอาประสบการณ์จากครั้งที่แล้วมาปรับใช้ หวังทำได้ 2 เหรียญทองทั้งประเภททีม และบุคคล ซึ่งมองว่าเรามีความพร้อมมากกว่าทุกทีม หวั่นใจแค่ประเภททีมที่มี ฟิลิปปินส์ เป็นหนึ่งในทีมที่มีลุ้น โดยยังเหลือแค่การซ้อมพัตต์ ทำความคุ้นเคยกับสภาพกรีนของสนาม รวมถึงปรับตัวกับสภาพอากาศอีกนิดหน่อย”

ขณะที่ “ทีเค” รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ เจ้าของเหรียญเงินประเภททีมในการแข่งขันครั้งก่อน กล่าวว่า “ถือว่าพร้อมเต็มที่ แม้ว่าช่วงนี้จะห่างหายจากการลงเล่นไป เนื่องจากติดเรียน แต่ก็ยังแบ่งเวลามาซ้อมอยู่เสมอ ครั้งนี้เป็นหนที่ 2 ในซีเกมส์ คงนำเอาประสบการณ์จากครั้งก่อนมาใช้อย่างเต็มที่ สำหรับสนามครั้งนี้แม้ว่าไม่ยาวมาก แต่ต้องอาศัยการวางแผนที่ดี ส่วนตัวมองว่า อินโดนิเซีย, มาเลเซีย, เวียดนาม และ สิงค์โปร์ เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว แต่มาถึงตรงนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ แค่ทำผลงานให้ดีที่สุด และช่วยพาทีมประสบความสำเร็จให้ได้”

ทั้งนี้ผลงานของทัพสวิงทีมชาติไทยที่ผ่านมา ในการแข่งขันที่ประเทศเวียดนาม เมื่อปี 2021 ประสบความสำเร็จด้วยการคว้า 4 เหรียญรางวัล โดยได้ 2 เหรียญทองจากประเภทบุคคลหญิง โดย ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ และประเภททีมหญิง และคว้าเหรียญเงินจากการแข่งขันประเภททีมชาย และเหรียญทองแดงจากบุคคลชาย โดย วีรวิชญ์ นาคประชา

การแข่งขันครั้งนี้ที่ ประเทศกัมพูชา จัดแข่ง ณ สนามการ์เด้น ซิตี้ฯ ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก พล.ต.วีระยุทธ เพชรบัวศักดิ์ ผู้เป็นสถาปนิกผู้ออกแบบสนามกอล์ฟ สุวรรณ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับและสนามกอล์ฟ สวนสน ประดิพัทธ์ในประเทศไทย และสนาม Phokeethra Country Club ในเสียมเรียบ เลย์เอาท์ส่วนใหญ่ของสนามจะถูกล้อมด้วยต้นปาล์มสูง มีกรีนขนาดใหญ่ และอุปสรรคน้ำในเกือบทุกหลุม จากตำแหน่งวางหมุดแชมเปี้ยนชิพที่ระยะ 7,361 หลา และแฟร์เวย์ที่ลูกตกไม่ค่อยวิ่งของ สนาม Garden City เป็นบททดสอบที่ยากแก่การเอาชนะได้ โดยมี หลุมที่ 6 พาร์ 4 ระยะ 439 หลา หลุมที่ 15 พาร์ 3 และหลุมที่ 9 พาร์ 4 ระยะ 444 หลา เป็นซิกเนเจอร์โฮลของสนาม

สำหรับทีมนักกอล์ฟทีมชาติไทย มีกำหนดเดินทางจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ในเวลา 7.35 น. ถึงกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในเวลา 8.50 น. ด้วยเที่ยวบิน WE586 ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 และมีกำหนดเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ด้วยเที่ยวบิน WE587 ในเวลา 9.40 น. และถึงประเทศไทยในเวลา 11.00 น.