“บิ๊กอึ่ง” – “เอ็ดเวิร์ด ตังคะราชา” ผู้ผลักดัน มวยโลกเมืองไทย !! (ตอนที่ 2 กำเนิด ABC)

Photo of author

ช่วงปี ค.ศ.1981 ที่ กรุงโซล เกาหลีใต้ เช้าวันหนึ่งระหว่างช่วงในงานประชุมใหญ่ สามัญประจำปี ของ สภามวยโลก WBC ซึ่งจัดขึ้นที่นั่น

มร.เอ็ดเวิร์ด ตังคะราชา ได้แนะนำให้ “ป๋าโฮ” โฮเซ่ สุไลมาน ประธานใหญ่ชาวเม็กซิกัน ได้รู้จักกับ “บิ๊กอึ่ง” คุณสมภพ ศรีสมวงศ์ ชายตัวเล็กร่างสันทัดจากประเทศไทย ในฐานะ นายสนามมวยเวทีช่อง 7 สี แต่เป็นผู้มีความคิด อยากส่งเสริมวงการมวยโลกในเมืองไทย ทั้งสามได้เริ่มสนทนา พร้อมด้วยไอเดียอันบรรเจิดของ บิ๊กอึ่ง สอบถาม ป๋าโฮ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสภามวยโลกว่า “จะทำอย่างไร จึงจะสามารถจัดตั้งองค์กรมวยระดับภูมิภาค เป็นตัวแทนสาขาย่อย WBC ในทวีปเอเชียขึ้นได้บ้าง !??”

เนื่องจากในขณะนั้น มีองค์กร สหพันธ์มวยภาคตะวันออกไกล และแปซิฟิค หรือ “โอพีบีเอฟ” (OPBF) เกิดขึ้นแล้ว ซ้ำยังมีเวทีมวยราชดำเนิน ผูกขาดเป็นตัวแทนในนามประเทศไทย ร่วมเป็นผู้ก่อตั้งอีกด้วย แต่ OPBF มิได้มีสถานะเป็น “สาขาย่อย” หรือลูกของ WBC โดยตรง

ป๋าโฮ จึงแนะนำว่า หลักเกณฑ์เบื้องต้น ของการก่อตั้งองค์กรนั้นง่ายมาก คือ ยูต้องไปหาชาติสมาชิกมารวมตัวกันให้ได้อย่างน้อย 5 ประเทศ ยูทำได้ไหม ?? จากนั้นก็มาแจ้งขึ้นทะเบียน อย่างเป็นทางการกับ WBC รับประกันไม่มีขั้นตอนยุ่งยากใดๆเลย

บิ๊กอึ่งรับคำ จากนั้นมาก็กลับมาทำหนังสือ ด้วยความช่วยเหลือของ มร.เอ็ดเวิร์ด ส่งหนังสือเวียนเชิญไปยังองค์กรมวยในประเทศต่างๆของทวีปเอเชีย นอกเหนือจาก ชาติ ที่เป็นสมาชิกเดิมของ OPBF

ปรากฏมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี มีชาติสมาชิกรวมแล้วถึง 10 ประเทศเลยทีเดียว แต่ส่วนใหญ่ จะเป็น คูเวต ,มาเลเซีย,อินเดีย,ปากีสถาน ฯลฯ ซึ่งว่ากันตามตรงแล้ว ยังแทบจะไม่มีนักมวยอาชีพกันเลยด้วยซ้ำ ทว่าด้วย สัญญาใจ และความมีน้ำใจ อัทธยาศัยอันดีของ มิสเตอร์ สุไลมาน (ผู้พ่อ) จึงก่อให้เกิด สถาบัน สภามวยแห่งเอเชีย หรือ ABC ในเวลาสี่ปีถัดมา หลังจากเกิดไอเดียขึ้นในการพบกันครั้งแรกที่เกาหลี

การเปิดตัวอย่างเป็นทางการมีขึ้น เมื่อคราวที่ ไทยเป็นเจ้าภาพ จัดงานประชุมใหญ่ WBC ในปี 1985 (พ.ศ.2528) ที่ โรงแรมเอเชีย ย่านราชเทวี กรุงเทพ โดยใช้ชื่อ ในสถาบันยุค นั้นว่า “สภามวยเอเชีย” Asian Boxing Council หรือ ABC โดยมี “บิ๊กอึ่ง” เป็นประธานก่อตั้งด้วยตัวเอง และมี มร.เอ็ดเวิร์ด เป็นเลขาธิการฯ ซึ่ง ท่านยังเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ บริหารจัดอันดับของ สภามวยโลก อยู่ด้วย

การเกื้อกูลหนุนส่งของทั้งสาม (เอ็ดเวิร์ด-บิ๊กอึ่ง-สุไลมาน) ถือว่ามีส่วนสำคัญให้ ประเทศไทย มีแชมเปี้ยนโลกในสายของ WBC อย่างต่อเนื่องมากมายในเวลาต่อมา จนถึงปัจจุบัน

การส่งเสริมผลักดันนักมวยไทยของ คุณสมภพ ได้รับการแนะนำจาก มิสเตอร์เอ็ดเวิร์ด คนสนิท ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวในงานประชุมใหญ่ WBC ที่ไทยเป็นเจ้าภาพครั้งแรกคราวนั้น “บิ๊กอึ่ง” หรือ ที่คนใกล้ชิดมักจะเรียกท่านว่า “คุณผู้ชาย” เคยเล่าถึงเคล็ดลับให้กับ สอดสร้อย ฟังจากปากว่า “ผมจะเตรียมเนคไท ผ้าไหมอย่างดี เป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของความเป็นไทย มอบให้กับแขกผู้มีเกียรติสำคัญๆจากทั่วโลกที่มาร่วมงานดังกล่าว” ส่วนเรื่องเลี้ยงดูปูเสื่อ การต้อนรับตามมารยาทไทยนั้น คงไม่เป็นที่กังขาแต่อย่างใด เพราะขนาด ป๋าโฮ ยังพร่ำบอกอยู่ทุกบ่อย ตลอดช่วงที่ยังมีชีวิต ว่า “การเดินทางมาประเทศไทยนั้น เปรียบเสมือนบ้านที่ 2” ของท่านเลยทีเดียว

ซึ่งคำเอ่ยอ้างเหล่านั้น หาได้เกินเลยความจริงไม่ เพราะป๋าโฮไม่เพียงแค่ จะเอ่ยเอาใจเจ้าภาพหรือว่าอยู่เป็น ทว่าเหตุการณ์สำคัญๆ ในคราวชิงแชมป์โลกไฟต์ต่างๆ ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ ด้วยอิทธิพล และ “บารมี” ของคนโตแห่งสภามวยโลก ท่านนี้แหละ ได้ช่วยสร้างปาฏิหาริย์ หรือทำให้แฟนมวยทั่วไป รวมทั้งแฟนมวยชาวไทย พากันทึ่ง และต้องซูฮก ทั้งนี้ คงต้องยกให้กับ 2 บุคคลผู้อยู่เบื้องหลังแห่งความสำเร็จหลายต่อหลายครั้งเหล่านั้น

ไว้คงจะรื้อฟื้นเหตุการณ์ และสาธยายความหลัง ในลำดับต่อไป…
โปรดติดตาม “สาวสังเวียน กับ สอดสร้อย” ขอบคุณครับ

จากบทความของ “สร้อย มั่งมี” ผู้สื่อข่าวกีฬา หนังสือพิมพ์ข่าวสด แฟนพันธ์ุแท้แชมเปี้ยนโลกชาวไทย ปี 2002 เจ้าของนามปากกา “นายสังเวียน หมัดตรง”