“ประมุขพาราไทย” ให้กำลังใจ “วีลแชร์ไทย” ประกาศยึดเจ้าเหรียญทอง “อาเชียนพาราเกมส์”

Photo of author

“จุตินันท์” ประมุขพาราไทยบุกแคมป์ให้กำลังใจทัพ “วีลแชร์ไทย” พร้อมตั้งเป้ายึด”เจ้าเหรียญทอง” อาเซียนพาราเกมส์ ที่ ฟิลิปปินส์ ต้นปีหน้า

“บิ๊กนิดหน่อย” จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี  ประมุขพาราไทย  บุกให้กำลังใจทัพนักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งทีมชาติไทยชุดทำศึก อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 10  ที่ประเทศฟิลิปปินส์ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 18-25 มกราคม 2563 ถึงสนามซ้อมที่ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา พร้อมตั้งเป้าหมายคว้า “เจ้าเหรียญทอง”  มาครองให้ได้  พร้อมอ้อนชาวไทย ช่วยเป็นกำลังใจให้ทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยให้ครั้งนี้

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 62  “บิ๊กนิดหน่อย” จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย  พร้อมคณะผู้บริหารคณะกรรมพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ได้เดินทางไป ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจนักกีฬา วีลแชร์เรซวิ่งทีมชาติไทย ชุดเตรียมเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาคนพิการ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 10 ที่ประเทศฟิลิปปินส์  ระหว่าง 18-25 ม.ค. 2563
โดยบรรยากาศการเข้าตรวจเยี่ยมของคณะกรรมพาราลิมปิกฯ เป็นไปอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง และเต็มไปด้วยร้อยยิ้มของนักกีฬาทุกคน

“บิ๊กนิดหน่อย” กล่าวว่า วันนี้ผมและคณะมาให้กำลังใจนักกีฬาทีมวีลแชรเรซซิ่งทีมชาติไทย และต้องบอกว่าทุกคนก็ค่อนข้างมีความพร้อม นอกจากนั้นยังได้เห็นว่ามีนักกีฬาหน้าใหม่เข้ามาค่อนข้างเยอะ ซึ่งอย่างที่บอกไปถือเป็นโอกาสที่ดีที่นักกีฬาหน้าใหม่ ได้โอกาสแสดงฝีมือ  แต่ที่ดีกว่านั้นคือในเดือนกุมภาพันธ์  ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันไอวาส (IWAS)  ซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬาที่เกี่ยวกับวีลแชร์ทั้งหมด ทำให้ถือเป็นโอกาสนักกีฬาหน้าใหม่ของเราเพิ่มขึ้น และรู้สึกว่าจะมี 6 กีฬาที่เป็นกีฬาที่มีโอกาสเป็นแซงชั่น มีโอกาสได้ไปพาราลิมปิกเกมส์ที่โตเกียวด้วย ส่วนอีกประการสำคัญที่มาในวันนี้เพื่อต้องการมาดูการปรับปรุงสนามซึ่งนักกีฬาเราได้พื้นสนามลู่วิ่งใหม่ ซึ่งได้มาตราฐานมากๆเลย ทำให้ถือเป็นเรื่องที่ดีมากที่นักกีฬาจะได้ฝึกซ้อมสนามที่ดีด้วย”

ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวต่ออีกว่า  เรื่องความหวังของเราแน่นอนเราต้องการเป็นเจ้าเหรียญทอง แต่ต้องบอกว่ามันมีหลายปัจจัย  เพราะเราต้องการที่พัฒนานักกีฬาหน้าใหม่ ไปแข่งขันเพิ่มประสบการณ์ และปัญหาอีกอย่างคือที่ผ่านมาเจ้าภาพ เอากีฬาที่ไม่เป็นสากลมาบรรจุอยู่ในการแข่งขัน แต่นั้นคงไม่ประเด็นสำคัญ เพราะเป้าหมายของคืออยากให้นักกีฬาไทยทำสถิติที่ดีขึ้นมากกว่า เพื่อนำไปเปรียบกับระดับพาราลิมปิกเกมส์ซึ่งจะเป็นตัวชีวัดที่ดีที่สุด แต่แน่นอนเราต้องเป้าหมายไว้ที่ การเป็นเจ้าเหรียญทองให้ได้

 “แต่สิ่งที่อยากขอบคุณแทนนักกีฬามากๆ เพราะที่ผ่านมาทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ อย่าง การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ที่เข้ามาดูแลกีฬาคนพิการดีมากขึ้นมากมาย ร่วมถึงภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็น ทรู ซีพี  ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น และ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ก็สนับสนุนมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปีอยู่แล้ว ส่วนที่รู้สึกดีมากๆ อีกอย่างคือ การที่ภาคเอกชนหลายบริษัท ได้เข้ามาดูและนักกีฬาคนพิการโดยการรับเข้าไปเป็นพนักงานแต่ละบริษัท ซึ่งถือเป็นกำลังใจชั้นเยี่ยมของนักกีฬาเลยก็ว่าได้”

“ส่วนอีกเรื่องที่ในเวลานี้ที่กำลังจะพยายามผลักดันคือเรื่องการสนับสนุนศึกษาให้กับนักกีฬา เพราะปัจจุบัน ต้องบอกว่ามีนักกีฬาระดับเยาวชนมากขึ้น ทำให้มีเด็กอายุ 14-18 ปี ยังมีความจำเป็นต้องมีการศึกษา  ทำให้ต้องมีการดูแลเรื่องนี้ควบคู่ไปการพัฒนาด้านการกีฬาด้วยเช่นกัน  ส่วนสุดท้ายตนอยากเชิญชวนชาวไทยทุกคน มาร่วมเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ที่เตรียมที่เดินทางไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนคนไทยทุกคนในการแข่งขันอีกหลายรายการไม่ว่าจะเป็น อาเซียนพาราเกมส์ ,ไอวาส หรือ พาราลิมเกมส์ 2020 ด้วยครับ” ประมุขพาราลิมปิก กล่าว

ขณะที่  “กร” พงศกร แปยอ นักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งทีมชาติไทยดีกรีเจ้าของ 2 เหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์  2020   เปิดเผยว่า ตนและทีมวีลแชร์ทีมชาติไทย ได้ฝึกซ้อมเตรียมความพร้อมกันมาอย่างต่อเนื่อง เพราะในปีหน้ามีโปรแกรมที่ต้องเดินทางไปแข่งขันหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น อาเซียนพาราเกมส์ 2020 ที่ ฟิลิปปินส์ และ พาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ ญี่ปุ่น  ทำให้เวลานี้เรื่องสภาพร่างกายของตนและพี่ๆน้องในทีมถือว่ามีพร้อมพอสมควรกับการเดินทางไปแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ แต่ต้องบอกว่าช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาค่อนข้างมีปัญหาเรื่องการฝึกซ้อมพอสมควรเนื่องจากเวลานี้ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มีการปรับปรุงทำให้เราไม่สามารถฝึกซ้อมได้อย่างเต็มที่นัก แต่เชื่อว่าในเวลาที่เหลือเกือบ 1 เดือนจะทำให้ทีมวีลแชร์พร้อมสำหรับอาเซียนพาราเกมส์อย่างแน่นอน

“ส่วนเรื่องเป้าหมายในปีนี้ผมจะลงแข่งขันใน 3 รายการ คือ 100 ม., 200 ม. และ 400 ม.  เนื่องจากในปีนี้เรามีนักกีฬาหน้าใหม่ค่อนข้างเยอะทำให้ผมเลยเปิดทางให้พี่ๆน้องๆ นักกีฬารุ่นใหม่ ได้มีโอกาสทำผลงานในครั้งนี้บ้าง เพราะในย่านอาเซียนนักกีฬาวีลแชร์ของเราถือเป็นทีมมาตรฐานเหนือกว่าทุกชาติในอาเซียพอสมควร ทำให้นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่นักกีฬารุ่นใหม่จะได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ ส่วนตัวนั้นมั่นใจจะสามารถทำผลงานคว้าเหรียญทองมากครองได้ทั้ง 3 รายการที่ลงแข่งขันเช่นกันครับ” พงศกร กล่าว  

ทั้งนี้ การแข่งขันกีฬาคนพิการ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 10 ประจำปี 2020 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 18-25 มกราคม 2563 ที่ฟิลิปปินส์ โดยมี 11 ชาติในอาเซียนเข้าร่วม ชิงชัยทั้งสิ้น 16 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กรีฑา, ว่ายน้ำ, ยิงธนู , แบดมินตัน, เทเบิลเนนิส, วีลแชร์เทนนิส, ยกน้ำหนัก, วอลเลย์บอล (นั่ง), วีลแชร์บาสเกตบอล, โกลบอล, บอคเซีย, ฟุตบอล 7 คน, โบว์ลิ่ง, หมากรุกสากล, ฟุตบอล 7 คน และ ไตรกีฬา โดยมีทัพนักกีฬาไทยลงแข่งขันรวม 467 คน แบ่งเป็น นักกีฬา 323 คน ผู้ฝึกสอน 91 คน และผู้ช่วยเหลือนักกีฬา 53 คน