“ยกเหล็กไทย” ออกแถลงการณ์กรณีพบสารต้องห้าม

Photo of author

แถลงการณ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย
เรื่อง การตรวจพบสารต้องห้ามในตัวอย่างปัสสาวะนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ฉบับที่ ๔
วันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๒
………………………………..
ตามที่สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ (IWF) ได้ทำการตรวจสารต้องห้ามในนักกีฬายกน้ำหนักโดยตรวจทั้งปัสสาวะ และตรวจเลือดจากนักกีฬายกน้ำหนักที่เข้าร่วมการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลกประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ระหว่างวันที่ ๒-๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ณ กรุงอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน โดยใช้วิธีตรวจปกติกับนักกีฬาทั้งหมดจำนวน ๕๒% และขออนุมัติจากศูนย์ต่อต้านการใช้สารต้องห้ามในนักกีฬา (WADA) ทำการตรวจแบบ IRMS คือตรวจแบบเข้มข้นจำนวน ๒๐ ตัวอย่าง โดยตรวจของนักกีฬายกน้ำหนักไทยจำนวน ๑๓ ตัวอย่าง อีก ๗ ตัวอย่างตรวจนักกีฬาชาติอื่น ๆ และพบนักกีฬายกน้ำหนักไทยใช้สารต้องห้ามจำนวน ๙ คน ต่อมาศูนย์ต่อต้านการใช้สารต้องห้ามของไทยNADO ได้ ขออนุมัติจาก WADA ทำการตรวจ สารต้องห้ามในนักกีฬายกน้ำหนักไทยโดยใช้วิธี IRMS อีก ๖ ตัวอย่างและได้พบในตัวอย่างนักกีฬาไทยอีก ๑ คน รวมเป็น ๑๐ คน

สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนมี พลอากาศเอก จิรศักดิ์ ภูวนารถนุรักษ์ เป็นประธาน และคณะกรรมการประกอบด้วย พันเอก นายแพทย์ ปรเมษฐ์ ลัดพลี, นายณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานันท์, ร้อยเอกหญิง ปวีณา ทองสุก และ พันโทหญิง ดร.อภิญญา ดัชถุยาวัตร คณะกรรมการฯได้สอบสวนและบันทึกคำให้การผู้เกี่ยวข้อง ๒๔ คน และจากการพิจารณาคำให้การประกอบเอกสารการศึกษา วิจัยที่เกี่ยวข้องและจากประวัติการตรวจสารต้องห้ามของนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ห้วงปี ๒๕๖๐ – ๒๕๖๑ ของสำนักงานการควบคุมสารต้องห้ามทางการกีฬา พบว่าได้ตรวจตัวอย่างปัสสาวะของนักกีฬา ยกน้ำหนักทีมชาติไทย จำนวน ๑๑๗ ตัวอย่าง แต่ไม่พบสารต้องห้ามแต่อย่างใด และเมื่อพิจารณาร่วมกับบันทึกข้อมูล การตรวจสารต้องห้ามของนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทยของการกีฬาแห่งประเทศไทยและสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติตลอดปี ๒๕๖๑ พบว่าไม่พบสารต้องห้ามจากการตรวจโดยวิธีปกติ แต่ภายหลังจากการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี ๒๕๖๑ พบว่านักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทยถูกตรวจพบการใช้สารต้องห้าม จำนวน ๑๐ คน ดังกล่าวทั้งของ IWF และ NADO โดยวิธีการ IRMS คือการตรวจแบบพิเศษ ซึ่ง เมื่อพิจารณาตามหลักฐานและเหตุผลดังกล่าวแล้ว พิสูจน์ได้ว่าได้ว่าน่าจะเกิดจากยาทาชนิดเจลที่นายหลิว หนิง นำมาใช้รักษาอาการบาดเจ็บของนักกีฬาสรุปรายละเอียด ดังนี้

๑. นักกีฬาจำนวน ๑๐ คน ให้การว่าเมื่อปลายปี ๒๕๖๐ ผู้ฝึกสอนหลิว หนิง ได้เข้ามาทำงานเป็น ผู้ฝึกสอนยกน้ำหนักทีมชาติไทย เมื่อนักกีฬาเข้าคอร์ดการฝึกซ้อมกับ ผู้ฝึกสอนหลิว หนิงแล้วเกิดอาการบาดเจ็บ ผู้ฝึกสอนหลิว หนิงได้นำยาเป็นแบบกระปุก มาทาแก้อาการบาดเจ็บข้อกระดูกและกล้ามเนื้อ เมื่อทาแล้วจะช่วยลดอาการบาดเจ็บและแจ้งว่าไม่มีสารต้องห้ามใด ๆ เมื่อนักกีฬาจำนวน ๑๐ คนได้ใช้เจลดังกล่าวแล้ว ต่อมาก็ไปแข่งขันทั่วโลกชนะบ้าง แพ้บ้าง โดยได้รับการตรวจสารต้องห้ามมาตลอดทั้งจากWADA, IWF และ NADO เป็นระยะเวลา ๑ ปี ซึ่งนักกีฬาก็ใช้เจลใสนี้มาตลอดจนถึงการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลกประจำปี ๒๕๖๑ ระหว่างวันที่ ๒ – ๑๐ พฤศจิกายน๒๕๖๑ ณ กรุงอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถานมีการตรวจพบว่ามีการใช้สารต้องห้าม ทั้งนี้นักกีฬาได้รับการอบรมมาว่าการใช้สารต้องห้ามมาจากการกิน การดื่ม หรือการใช้ยาฉีดเท่านั้น ไม่เคยทราบมาก่อนว่ายาทาหรือยานวดจะเป็นการซึมเข้าไปแล้วทำให้เกิดการออกฤทธิ์ว่าใช้สารต้องห้ามด้วย ดังนั้นทุกคนจึงใช้ยาทาที่เป็นเจลรักษาอาการบาดเจ็บด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
คณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า นักกีฬาที่ถูกตรวจพบสารต้องห้ามทั้ง ๑๐ คน มีความผิดในการใช้สารต้องห้ามจริง แต่เป็นความผิดที่เกิดจากความประมาทและความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้ จงใจหรือตั้งใจกระทำ รวมทั้งมีความเชื่อโดยสนิทใจว่ายาทาชนิดเจลที่นายหลิว หนิง นำมาให้ใช้ทาเพื่อบำบัดอาการอักเสบและบาดเจ็บกล้ามเนื้อที่เกิดจากการฝึกซ้อม ไม่มีส่วนประกอบของสารต้องห้ามผสมอยู่ ทั้งนี้เพราะนายหลิว หนิง แจ้งแก่นักกีฬาว่ายาดังกล่าวไม่มีสารต้องห้ามเป็นส่วนประกอบ รวมทั้งจากความรู้ที่ได้รับ การอบรมสั่งสอนจากผู้ดูแลให้ระมัดระวังเฉพาะการรับประทานอาหาร น้ำดื่มและยาชนิดรับประทานหรือยาฉีดเข้าสู่ร่างกายเท่านั้น

๒. นายหลิว หนิง ผู้ฝึกสอนสัญชาติจีน ให้การว่าได้มาปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนนักกีฬา ยกน้ำหนักทีมชาติไทย ตั้งแต่กันยายน ๒๕๖๐ พบว่านักกีฬายกน้ำหนักจำนวน ๑๕ คน ที่อยู่ในความรับผิดชอบ เกิดอาการบาดเจ็บตามข้อ กระดูกและกล้ามเนื้อที่ทำการฝึกหนักของคอร์ดที่ตอนเองเป็นคนสอน จึงได้นำยาทาแก้อาการบาดเจ็บ เป็นยาทาชนิดเจลใส จากเพื่อนชาวจีน ชื่อ Mr.ZHENG GANG มาให้นักกีฬาใช้ตั้งแต่ระยะแรกๆ ที่ปฎิบัติหน้าที่ โดยไม่ทราบว่ามีสารต้องห้ามเป็นส่วนประกอบ และเมื่อนักกีฬาใช้ยาทานี้แล้ว อาการบาดเจ็บดีขึ้น จีงให้ใช้มาตลอดระยะเวลา ๑ ปีกว่า และไม่เคยคิดว่าการใช้ยาทาเจลใสนี้จะมีการออกสารต้องห้าม เพราะมีการตรวจจาก WADA, IWF และ NADO จำนวนหลายครั้ง ทั้งตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะเมื่อนักกีฬาทั้ง ๑๐ คน ไม่เคยใช้สารต้องห้าม ตัวเองยังไม่เชื่อ เพราะนักกีฬายกน้ำหนัก ๑๐ คนไม่เคยใช้สารต้องห้ามที่มาจากการกิน, การดื่ม, หรือฉีดยา แต่ว่ามาใช้เจลแล้วออกสารต้องห้าม ก็มีความเสียใจเป็นอย่างมากคณะกรรมการ พิจารณาแล้วเห็นว่า นายหลิว หนิง มีความผิดจริง ที่นำยาชนิดเจลดังกล่าวมาให้นักกีฬาใช้ โดยความประมาท ขาดความระมัดระวัง ขาดความละเอียดรอบคอบ มีความเชื่อจากคำบอกเล่าของเพื่อนชาวจีนที่ชื่อMr.ZHENG GANG เท่านั้น ทั้งๆ ที่ไม่มีผลทดสอบว่าเจลใสนี้ไม่มีสารต้องห้ามเป็นลายลักษณ์อักษร

๓. นักกีฬาที่ร่วมฝึกซ้อมด้วย ๓ คน ให้การว่า ระยะเวลา ๑ ปีที่ผ่านมา นักกีฬาที่อยู่ในความดูแลของผู้ฝึกสอนหลิว หนิง มีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ และใช้ยาทาชนิดเจลของนายหลิว หนิง แต่ไม่ทราบมาก่อนว่ายาที่ใช้ทาจะมีสารต้องห้ามเป็นส่วนประกอบ ทราบแต่เพียงว่าการใช้สารต้องห้ามจะได้รับจากการรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม ยาที่ใช้รับประทานหรือฉีดเท่านั้น และนักกีฬาที่ถูกตรวจพบสารต้องห้าม ไม่ได้รับประทานอาหารผิดไปจากปกติ

๔. ผู้ฝึกสอนชาวไทย จำนวน ๔ คน ให้การว่า ทราบและพบเห็นนักกีฬาทั้ง ๑๐ คน รับการรักษาอาการบาดเจ็บโดยใช้ยาทาชนิดเจลของนายหลิว หนิง และไม่ทราบมาก่อนว่า ยาที่ใช้ทามีสารต้องห้ามเป็นส่วนประกอบ ทราบแต่เพียงว่าการได้รับสารต้องห้ามจะได้รับจากการรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม ยาที่ใช้รับประทานและยาที่ใช้ฉีดเท่านั้น

๕. นักกายภาพบำบัด ๒ คน ให้การว่า ห้วงฝึกซ้อมในระยะเวลา ๑ ปีที่ผ่านมา นักกีฬามีอาการบาดเจ็บส่วนต่างๆ ของร่างกาย และทราบว่าไปรับการรักษาโดยใช้ยาทาชนิดเจลของ นายหลิว หนิง

๖. แพทย์ผู้ดูแลรักษานักกีฬา ให้การว่า มีหน้าที่ดูรักษาการบาดเจ็บของนักกีฬา ยืนยันว่านักกีฬามีอาการบาดเจ็บจริง แต่ไม่มีอาการป่วย และไม่ทราบว่านักกีฬาดังกล่าวไปรับการรักษาอาการบาดเจ็บด้วยการการใช้ยาทาชนิดเจลจากนายหลิว หนิง

๗. ผู้ประกอบอาหาร ให้การว่า มีหน้าที่ประกอบอาหารให้กับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ในศูนย์ฝึก โดยจัดหาวัตถุดิบและเครื่องปรุงรสจากตลาด เมื่อปรุงเสร็จจะปิดภาชนะอย่างมิดชิด ไม่มีผู้ใดจะใส่วัตถุอื่นลงไป

๘. หัวหน้าศูนย์ฝึก ให้การว่า ห้วงก่อนการแข่งขันนักกีฬาไม่ได้รับประทานอาหารที่แตกต่างจากปกติ ได้รับทราบรายงานการเจ็บป่วยและบาดเจ็บของนักกีฬาเป็นประจำแต่ไม่ทราบว่านักกีฬาดังกล่าวไปรับการรักษาอาการบาดเจ็บด้วยการใช้ยาทาชนิดเจลจาก นายหลิว หนิง