รวมสถิติที่น่าสนใจฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ 2019

Photo of author

หลังจบการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ด้วยชัยชนะ 2-0 ของทีมดังจากแอนฟิลด์ ขณะที่ เจอร์เกน คล็อปป์ สร้างสถิติเป็นผู้จัดการทีมคนที่ 4 ของลิเวอร์พูล ที่พาทีมคว้าแชมป์

ทำให้ลิเวอร์พูล เป็นทีมจากอังกฤษที่ได้แชมป์รายการนี้มากที่สุดต่อไป และเป็นรองแค่เรอัล มาดริด ที่ได้แชมป์ 13 ครั้ง และ เอซี มิลาน ที่ได้แชมป์ 7 ครั้ง

สำหรับสถิติที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นมีดังนี้

– เจอร์เกน คล็อปป์ เป็นผู้จัดการทีมคนที่ 4 ที่พาลิเวอร์พูลเป็นแชมปนี้ ต่อจาก บ็อบ เพรสลีย์, โจ เฟแกน และ ราฟาเอล เบนิเตซ และเป็นโค้ชคนที่ 17 ที่คว้าถ้วยแชมป์รายการนี้

เจอร์เกน คล็อปป์ เป็นผู้จัดการทีมชาวเยอรมนีคนที่ 5 ที่เป็นแชมป์ถ้วยใหญ่ยุโรป ต่อจาก เด็ตมาร์ คราเมอร์, จุปป์ ไฮย์เกส, อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ และ อูโด ลาทเท็ค

เมาริซิโอ ปอเช็ตติโน แพ้ในนัดชิงชนะเลิศทั้งสองครั้งกับการคุมท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นการพ่ายแพ้ในศึกลีกคัพต่อเชลซีเมื่อปี 2015

ลิเวอร์พูลครองบอลแค่เพียง 35.4 เปอร์เซนต์ และเป็นทีมแรกที่ครองบอลน้อยกว่าแล้วสามารถคว้าแชมป์ นับตั้งแต่อินเตอร์ มิลาน ของโชเซ มูรินโญ่ ทำได้ในปี 2010

เกมนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ไม่มีใบเหลืองหรือใบแดง

โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ เป็นผู้เล่นชาวแอฟริกาคนที่ 5 ที่ทำประตูได้ในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ต่อจาก ราบาห์ มัดเจอร์, ซามูเอล เอโต, ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ ซาดิโอ มาเน

ประตูของ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ เกิดขึ้นในเวลา 1 นาที 48 วินาที ซึ่งเร็วที่สุดเป็นอันดับสองในนัดชิงชนะเลิศรายการนี้ ต่อจากประตูของ เปาโล มัลดินี ที่ยิงให้เอซี มิลาน ขึ้นนำลิเวอร์พูลด้วยเวลา 51 วินาที ในปี 2005

ดิว็อค โอริกี ได้ยิง 3 ครั้ง และเป็นประตูทั้ง 3 ครั้ง ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ นอกจากนี้เขายังเป็นชาวเบลเยียมคนที่ 2 ที่ยิงในนัดชิงได้ ต่อจากยานนิค การ์ราสโก เมื่อปี 2016

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เป็นผู้เล่นอายุน้อยกว่า 21 ปี คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ครั้งติดต่อกันด้วยอายุ 20 ปี 237 วัน