ในการแข่งขันรอบแรกศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 8-176มกราคม ที่ผ่านมา ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี อยู่กลุ่ม A ร่วมกับ ทีมชาติออสเตรเลีย, บาห์เรน และ อิรัก
โดยผลงานที่ผ่านมาสามนัดเอาชนะ บาห์เรน 5-0 แพ้กับออสเตรเลีย 1-2 และปิดท้ายด้วยการเสมอ อิรัก 1-1 เก็บได้ 4 คะแนน เป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ
จากผลงานอันยอดเยี่ยม สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มอบเงินสนับสนุนเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ ตามเงื่อนไขที่ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ได้แจ้งกับนักกีฬาและสตาฟฟ์โค้ช ในกรณีที่มีผลการแข่งขันสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ ทุกประตูจะได้รับลูกละ 2 ล้านบาท ซึ่งทีมชาติไทย เอาชนะ บาห์เรน 5-0 ได้รับ 10 ล้านบาท และได้รับอีก 3 ล้านบาท จากการพาทีมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่เดินทางมาชมเกมการแข่งขันในสนาม ยังได้มอบเงินสนับสนุนไม่ว่าชนะหรือแพ้ถ้ายิงประตูได้อีกลูกละ 1 แสนบาท ตั้งแต่นัดที่ 2 และ 3 ซึ่งทีมชาติไทยทำได้ 2 ประตู จากการพ่ายให้กับ ออสเตรเลีย 1-2 และ เสมอกับ อิรัก 1-1 รวมเป็นเงินทั้งสิ้นสมาคมกีฬาฟุตบอลได้มอบเงินจำนวน 13.2 ล้านบาท ให้แก่นักกีฬาและทีมงานผู้ฝึกสอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ได้ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย พบกับ ทีมชาติซาอุดีอาระเบีย ในวันที่ 18 มกราคม 2563 เวลา 17.15 น. ณ สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์