เกมบิ๊กแมตซ์ เชลซี เปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ พบ แมนฯซิตี้
เริ่มเกมมา แมนฯซิตี้ ได้ลุ้นก่อน ฟรีคิกจากฝั่งซ้าย ริย๊าด มาห์เรซ เปิดเข้ามาให้ แฟร์ดันนิโญ่ ขึ้นโขกเต็มๆ แต่ เกป้า ยังบินปัดได้ปลายมือ
นาที 36 เจ้าถิ่นมาได้ประตูขึ้นนำก่อน จังหวะสวนกลับ เมนดี้ จะคืนบอลให้ กุนโดกาน แต่ถูก คริสเตียน พูลิซิช ตัดบอลได้ก่อนกระชากบอลหนี กุนโดกาน และแตะอีกครั้งผ่าน เมนดี้ หลุดเข้าไปยิงหนีมือ เอแดร์ซอน เข้าประตูให้เชลซี ขึ้นนำ 1-0
ครึ่งหลัง นาที 55 แมนฯซิตี้ ได้ฟรีคิก ระยะ26 หลา กลางสนาม และ เป็น เควิน เดอ บรอยน์ ปั้นย้อย บอลฮุคลง เสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม แมนฯซิตี้ ไล่มา 1-1
ถัดมาอีก 2 นาที แมนฯซิตี้ น่าจะได้ประตูขึ้นนำ จังหวะสวนกลับ เอแดร์ซอน ออกบอลเร็วให้ ซิลบาไหลต่อไปที่ เดอ บรอยน์ ออกช้ายไปให้ เชซุส แทงทะลุให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง หลุดไปยิงผ่านมือ เกปา แต่บอลไปชนเสาพลาดโอกาสขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 71 ซิตี้ รอดพ้นการเสียประตูแบบเหลือเชื่อ พูลิซิช ได้บอลหลุดไปกระชากหนี เอแดร์ซอน ก่อนพยายามขืนตัวยิง ทว่า วอล์คเกอร์ วิ่งมาเคลียร์ทิ้งจากเส้นทันเวลา
ถัดมานาที 76 วิลเลี่ยน กระชากมาทางขวาเปิดบอลจังหวะแรกติดบล็อค แต่ยังเปิดได้อีกครั้งให้ แทมมี่ ยิงติดเซฟ เอแดร์ซอน พูลิซิช พยายามตามซ้ำ แต่โดน เอแดร์ซอน ตามไปปัด บอลมาเข้าทาง แทมมี่ ตามซ้ำอีกที ไปโดนแขนของ แฟร์นานดินโญ่ / กรรมการดู VAR พร้อมชี้เป็นจุดโทษแล้วแจกใบแดงให้ แฟร์นานดินโญ่ / และเป็น วิลเลี่ยน ที่รับหน้าที่สังหารไม่พลาด เชลซีขึ้นนำ 2-1
จากนั้น แมนฯซิตี้พยายายมบุกหวังทวงประตูคืนแต่ก็ไล่ไม่ทันจบเกมส์เชลซีเก็บเพิ่ม 3 คะแนนไล่ตามหลังเลสเตอร์ เหลือแต้มเดียว พร้อมส่งผลพา ลิเวอร์พูล ผงาดเป็นแชมป์อย่างเป็นทางการหนแรกในรอบ 30 ปี
—————————————————————————————————–
ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่น
เซาท์แธมป์ตัน 0-2 อาร์เซนอล
เบิร์นลี่ย์ 1-0 วัตฟอร์ต
*** สรุปตารางคะแนน พรีเมียร์ ลีก หลังผ่าน 31 นัด ***