“โปรมดแดง” ธรรมนูญ ศรีโรจน์ และ “โปรเล็ก” ถาวร วิรัตน์จันทร์ 2 นักกอล์ฟรุ่นเดอะของวงการกอล์ฟเมืองไทย ตอบรับลงแข่งขันในศึกกอล์ฟผสมชาย-หญิง ไทยแลนด์ มิกซ์ โฮสต์บาย ทรัสต์กอล์ฟ สนาม 4 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 16-19 พ.ย.นี้ สนามแบล๊คเมาท์เท่น กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แบบพาร์ 72 ชายระยะ 7,246 หลา หญิงระยะ 6,303 หลา ชิงเงินรางวัล 3 ล้านบาท ภายใต้มาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อก่อนเข้าร่วมการแข่งขันอย่างเคร่งครัด
รายการนี้จัดโดย ทรัสต์กอล์ฟ ศูนย์ฝึกซ้อมและพัฒนาศักยภาพการตีกอล์ฟด้วยเทคโนโลยีระดับโลกที่ทันสมัย ได้รับการสนับสนุนจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ธนาคารกรุงเทพฯ บริษัท บี.กริม บริษัท บอนด์ โฮลดิ้งส์ เอไอเอสเพลย์ บริดจ์สโตน ทรัสต์ ฟาร์มาซี ทรัสต์ไลฟ์สตรีมมิ่ง ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) สนามกอล์ฟแบล๊คเมาท์เท่น กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท ซึ่งรายการแข่งขันนี้ได้เปิดโอกาสให้นักกอล์ฟจากทุกทัวร์สามารถเข้าร่วมการแข่งขันโดยมีนักกอล์ฟอาชีพชาย นักกอล์ฟอาชีพสตรี นักกอล์ฟสมัครเล่นและนักกอล์ฟอาชีพอาวุโสเข้าร่วมการแข่งขันแบบสโตรคเพลย์ 4 วัน 72 หลุม โดยหลังจบ 36 หลุม ตัดตัวที่อันดับ 60 และเสมอ โดยไม่นับคะแนนนักกอล์ฟสมัครเล่น เพื่อไปเล่นใน 2 รอบสุดท้ายเพื่อหาผู้ชนะ แบ่งเป็นนักกอล์ฟชาย 72 ราย และหญิง 72 ราย
รายการนี้นอกจากจะเป็นการแข่งขันของ โปรทัวร์ ชาย-หญิง และนักกอล์ฟสมัครเล่นแล้ว ยังเปิดโอกาสให้นักกอล์ฟอาวุโสร่วมการแข่งขันด้วย ซึ่งรวมถึง 2 สวิงชื่อดังอย่าง “โปรมดแดง” ธรรมนูญ ศรีโรจน์ จากชลบุรี และ “โปรเล็ก” ถาวร วิรัตน์จันทร์ จากนครปฐม ที่ต่างมีดีกรีแชมป์มาแล้วอย่างมากมาย และผ่านสังเวียนกอล์ฟมาแล้วทั่วโลก
โปรมดแดง วัย 52 ปี เจ้าของแชมป์ระดับ เอเชียน ทัวร์ 5 รายการ และแชมป์ในศึก ออลไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ 9 รายการ กล่าวถึงการลงแข่งขันร่วมกับ โปรทัวร์ชาย-หญิง ชั้นนำของไทยว่า “โอกาสสำหรับโปรระดับซีเนียร์ที่จะคว้าแชมป์ในรายการ ไทยแลนด์ มิกซ์ อาจจะยาก เพราะพละกำลังสู้เด็กรุ่นใหม่ๆไม่ได้ แต่ถือว่าได้ว่าสร้างสีสันให้กับการแข่งขัน ปีนี้ถือว่าผลงานน่าพอใจ ที่ผ่านมาลงแข่งมาแล้ว 2 ครั้ง ผ่านเข้ารอบทั้งหมด โดยเฉพาะแมตช์ล่าสุดที่ เลควิวฯ จบด้วยอันดับ 11 ร่วม และได้โอกาสลงเล่นกับโปรรุ่นน้องๆ ถือเป็นรายการแปลกใหม่ สนุก และเป็นแมตช์ที่ช่วยเสริมสร้างเด็กรุ่นใหม่ๆได้ดี”
มาที่ โปรเล็ก วัย 54 ปี มือ 1 เอเชียน ทัวร์ 2 สมัย (2005, 2012) รวมถึงเจ้าของสถิติแชมป์อันดับ 1 เอเชียน ทัวร์ 18 รายการ ที่ปัจจุบันเล่นใน เจแปน ซีเนียร์ กอล์ฟ ทัวร์ ประเทศญี่ปุ่น กล่าวถึงการกลับมาลงแข่งขันร่วมกับนักกอล์ฟรุ่นน้องในรายการนี้ว่า “ที่ตัดสินใจมาลงแข่งขันในรายการนี้ ก็อยากจะเข้ามาสร้างสีสันให้กับการแข่งขัน และได้เห็นนักกอล์ฟรุ่นน้องๆ ทั้งชาย-หญิง ซึ่งที่ผ่านมาดีใจที่มองเห็นว่าวงการกอล์ฟในบ้านเราตื่นเต้นมากขึ้น และเห็นนักกอล์ฟที่มีฝีมือเกิดขึ้นอย่างมากมาย”
โปรถาวร เจ้าของแชมป์ ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ 8 รายการ กล่าวต่อว่า “เคยมาแข่งในศึก ไทยแลนด์ มิกซ์ฯ แล้วครั้งหนึ่งในแมตช์เปิดสนามที่ แบล๊คเมาท์เท่น แห่งนี้ สนามนี้เป็นสนามที่ยาว นักกอล์ฟที่ตีไกลได้เปรียบ ดังนั้นมองว่าโอกาสของตัวเองในสนามนี้คงยาก อีกอย่างตอนนี้ก็อยู่ในช่วงพักฟื้นจากอาการเจ็บที่ข้อมือ จึงไม่ค่อยได้ซ้อมมากนัก แต่กำลังเตรียมกลับมาลงสนามซ้อมก่อนแข่ง 2-3 วัน”
สำหรับรูปแบบการแข่งขันยังคงจัดให้มี 2 แท่นที สำหรับนักกอล์ฟชาย และนักกอล์ฟหญิง ใช้ระบบการเล่นแบบสโตรคเพลย์ 4 วัน 72 หลุม โดยหลังจากจบ 36 หลุมมีการตัดตัวที่อันดับ 60 และเสมอ เพื่อไปเล่นต่อรอบชิงชนะเลิศ 2 วันสุดท้าย ภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยในการป้องการแพร่ระบาดของ ไวรัส โควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยผู้ที่ยังรับวัคซีนไม่ครบจะต้องมีผลตรวจ อาร์ที-พีซีอาร์ (RT-PCR) ไม่เกิน 72 ชม. ขณะที่ผู้ที่รับวัคซีนครบ 2 เข็มจะต้องนำผลการตรวจแบบ เอทีเค สวอปเทสต์ (ATK Swap Test) ไม่เกิน 48 ชม.และต้องมีผลเป็น “ลบ” ก่อนอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขัน
นักกอล์ฟที่นำแคดดี้ส่วนตัวจะต้องนำผลตรวจ โควิด-19 (RT-PCR) ของแค๊ดดี้มายื่นให้กับทางทัวร์นาเม้นท์ ในวันรายงานตัว หากต้องการที่จะมีการตรวจพร้อมกับนักกีฬาที่ทาง ทัวร์นาเม้นท์ กำหนดจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง และต้องมีการแจ้งชื่อ พร้อมส่งสำเนาบัตรประชาชนให้กับทาง ทัวร์นาเม้นท์ ก่อนเข้ารับการตรวจ 1 วัน หากมีผลตรวจเป็น “บวก” จะต้องทำการตรวจสอบรอบที่ 2 ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเต็มจำนวน
ทรัสต์กอล์ฟ นอกจากจะมีศูนย์ฝึกซ้อม และพัฒนาศักยภาพด้วยเทคโนโลยีระดับโลกที่ทันสมัยแล้ว ยังได้เดินหน้าสนับสนุนการแข่งขันระดับนานาชาติอย่างในศึก เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ และ แอลพีจีเอ ทัวร์ ในรายการ “ทรัสต์กอล์ฟ วีเมนส์ สก๊อตติส โอเพ่น” เป็นเวลา 5 ปีตั้งแต่ปี 2021-2025 ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากนักกอล์ฟชั้นนำระดับโลกมากมายเข้าร่วมการแข่งขัน และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง นอกจากนั้นแล้วยังเป็นเวทีให้นักกอล์ฟสาวไทยที่ผ่านการคัดเลือกจากการสนับสนุนจากทางทรัสต์กอล์ฟได้เข้าร่วมการแข่งขันอีกด้วย
อีกทั้งทาง ทรัสต์กอล์ฟ ยังได้มีการสนับสนุนนักกีฬาในการก้าวสู่เวทีระดับโลกด้วย อาทิเช่น โปรแจ๊ส อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ สวิงมือ 1 เอเชียน ทัวร์ ก็เป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่ทรัสต์กอล์ฟให้การสนับสนุนในการก้าวสู่เวทีระดับ พีจีเอ ทัวร์ และยังมี พรหม มีสวัสดิ์, ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ, แดนไท บุญมา, วิชาณี มีชัย, กานต์พนิตนันท์ เมืองคำสกุล, พริมา ธรรมรักษ์ และคนอื่นๆอีกมากมาย ด้านการแข่งขันภายในประเทศทาง ทรัสต์กอล์ฟ ก็ยังได้จัดแมตช์แข่งขันผสมชาย-หญิง อย่างศึก “ทรัสต์กอล์ฟ ทัวร์ 2021” ภายใต้ชื่อ “ไทยแลนด์ มิกซ์ โฮสต์ บาย ทรัสต์กอล์ฟ” จำนวน 5 แมตช์ ชิงเงินรางวัลรวม 17 ล้านบาท เพื่อเป็นเวทีสำหรับนักกอล์ฟอาชีพชาย-หญิงในเมืองไทยอีกด้วย
ที่ผ่านมาด้านการแข่งขันในเมืองไทยอื่นๆ ทางทรัสต์กอล์ฟได้มีการจัดการแข่งขันและสนับสนุนรายการอาชีพ ,สมัครเล่น และเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรีรายการ “ทรัสต์กอล์ฟ ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2019” (Trust Golf Thailand Masters 2019)ของสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรีไทย (THAI LPGA) โปร-แอม แชมเปี้ยนชิพ พาวเวอร์ บาย ทรัสต์กอล์ฟ (Pro-Am Championship Power By Trust Golf ) และ ไทย อะคาเดมีย์ กอล์ฟ ทีม แชมเปี้ยนชิพ 2020 (Thai Academy Golf Team Championship 2020)
พร้อมนั้นยังมี Trust Golf Scholarship เพื่อสนับสนุนเหล่าบรรดานักกอล์ฟระดับเยาวชน ซึ่งเป็นกิจกรรมกลุ่มสมาคมผู้ปกครองนักกอล์ฟเยาวชน เพื่อผลักดันนักกอล์ฟเยาวชนได้มีเวทีแข่งขันผ่านรายการ ไทยแลนด์ มิกซ์ โฮสต์ บาย ทรัสต์กอล์ฟ ในปี 2021 อีกทั้งยังมีโครงการ กอล์ฟ ทู สคูล (Golf to School) ทั้งในการแข่งขัน ทรัสต์กอล์ฟ อเมเจอร์ ควอลิฟายเออร์ 2021 เพื่อคัดนักกอล์ฟเข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟหญิงสมัครเล่นชิงแชมป์ เอเชีย-แปซิฟิค (Women Amateur Asia Pacific-WAAP) และรายการ ไอเอ็มจี อะคาเดมีย์ จูเนียร์ เวิลด์ ฟลอริด้า ชาลเล้นจ์ อีกด้วย