“ธอร์บียอร์น โอเลเซ่น” โปรเดนมาร์กคว้าแชมป์ ดีพีเวิลด์ทัวร์ “ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023” ในขณะที่ “ทีเค” รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ โชว์การทำผลงานดีที่สุดเหนือโปรไทย พร้อมรับรางวัลนักกอล์ฟสมัครเล่นยอดเยี่ยมที่ทำคะแนนดีที่สุด
การแข่งขันกอล์ฟดีพีเวิลด์ทัวร์ (ยูโรเปี้ยนทัวร์ เดิม) “ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023” ณ สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ 2566 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญฯ หรือราว 65.8 ล้านบาท ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, ดีพี เวิลด์, อมตะสปริง คันทรีคลับ, บีเอ็มดับเบิลยู และสายการบินเอมิเรตส์
วันสุดท้ายของการชิงชัย 19 กุมภาพันธ์ มีแฟนกอล์ฟเดินทางเข้าร่วมชมการแข่งขันมากที่สุดเพื่อค้นหาแชมป์ “ไทยแลนด์ คลาสสิก” คนใหม่ โดย ธอร์บียอร์น โอเลเซ่น โปรวัย 33 ปี จากเดนมาร์ก ผู้นำในวันที่ 3 เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง ทำเพิ่มอีก 6 อันเดอร์พาร์ 66 สกอร์รวม 4 วัน 24 อันเดอร์พาร์ 264 (67-67-64-66) คว้าแชมป์ “ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023” รับเงินรางวัล 340,000 เหรียญสหรัฐ (11.56 ล้านบาท)
อันดับ 2 ได้แก่ ยานนิค พอล โปรเยอรมนี ที่เก็บเพิ่ม 4 อันเดอร์พาร์ 68 สกอร์รวม 4 วัน 20 อันเดอร์พาร์ 268 (65-69-66-68) และอันดับ 3 ร่วมมี 2 คน ได้แก่ อล็กซานเดอร์ คแนปป์ (เยอรมนี) 18 อันเดอร์พาร์ 270 (65-69-69-67) และ จูสต์ ลูเท่น (เนเธอร์แลนด์) 18 อันเดอร์พาร์ 270 (69-67-65-69)
ธอร์บียอร์น โอเลเซ่น สวิงมือ 127 ของโลก คว้าแชมป์ ดีพีเวิลด์ทัวร์ ได้เป็นสมัยที่ 7 กล่าวว่า วันสุดท้ายเล่นด้วยความรู้สึกที่สบายมาก ๆ ทำให้เล่นได้ดี ความกดดันจะมีบ้างเพราะคนที่ตามมาก็เล่นได้ดีเช่นกัน ชัยชนะรายการนี้ถือเป็นการออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ที่ดีมาก และเป็นเวลานานแล้วที่ตนเองจะได้กลับเข้าสู่อันดับท็อป 100 ของโลกอีกครั้ง
ผลงานของนักกอล์ฟไทย “ทีเค” รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ นักกอล์ฟสมัครเล่นไทย ออกสตาร์ทค่อนข้างอืดเสียโบกี้ที่หลุม 9 แต่มาเก็บ 3 เบอร์ดี้ในการเล่น 9 หลุมหลัง จากนั้นออกดับเบิ้ลโบกี้ 2 หลุมติดกัน ในหลุมที่ 16,17 ก่อนจะเก็บเบอร์ดี้ในหลุมสุดท้าย จบที่ 1 โอเวอร์พาร์ 73 รวมสกอร์ 4 วัน 8 อันเดอร์พาร์ 280 (72-66-69-73) ได้อันดับ 38 ร่วม เป็นผลงานของนักกอล์ฟไทยที่ดีที่สุดในรายการนี้
“ทีเค” ซึ่งเพิ่งลงเล่นรายการระดับดีพีเวิลด์ทัวร์ เป็นรายการที่ 2 ต่อจาก สิงคโปร์ โอเพ่น เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ เปิดเผยว่า การเล่นวันสุดท้ายตีได้ดีแล้ว แม้ว่าจะพัตต์ไม่ลงแต่ก็เล่นด้วยความอดทนจนมาได้ 3 เบอร์ดี้ สำหรับ 2 หลุมที่เสียแต้มไปเยอะนั้น ยอมรับว่าหลุดสมาธิไปเอง อย่างไรก็ตาม รู้สึกมีความสุขมากที่ได้แข่งขันในรายการนี้ และอยากให้รายการ “ไทยแลนด์ คลาสสิก” อยู่ในประเทศไทยนาน ๆ และพร้อมที่จะมาแข่งขันทุกครั้ง เพราะการได้เล่นกอล์ฟต่อหน้าแฟนกีฬาชาวไทยนั้นมีความสุขที่สุดแล้ว
เอกปริษฐ์ หวู่ โปรไทยที่ได้รับการสนับสนุนจาก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ทำอีเวนพาร์ 72 ในวันสุดท้าย สกอร์รวมมี 7 อันเดอร์พาร์ 281 (71-68-70-72) ได้อันดับ 46 ร่วม
“โปรช้าง” ธงชัย ใจดี ทำ 2 โอเวอร์พาร์ 74 จบ 4 วัน 2 อันเดอร์พาร์ 286 (69-70-73-74) อยู่อันดับ 69 และ “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ หวดไปถึง 7 โอเวอร์พาร์ 79 รวม 4 วันเหลือแค่ 1 อันเดอร์พาร์ 287 (68-67-73-79) ได้อันดับ 70 ร่วม นอกจากนี้ มีนักกอล์ฟที่สามารถทำโฮลอินวันได้สำเร็จในหลุมที่ 13 พาร์ 3 ระยะ 210 หลา ได้แก่ โอลิเวอร์ ฮันเดโบลล์ โปรวัย 23 จากเดนมาร์ก ได้รับรางวัล รถยนต์ BMW IX xDrive40 มูลค่า 4,999,000 บาท ปิดท้ายการแข่งขันอย่างน่าประทับใจ
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ,นายณัฐพล อันตรเสน ผู้อำนวยการกองส่งเสริมพัฒนากีฬาอาชีพ สำนักงานคณะกรรมการกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมด้วย ทอม ฟิลลิปส์ ผู้อำนวยการภาคพื้นตะวันออกกลาง ดีพีเวิลด์ ทัวร์, มิคาเอล อีริคสัน ผู้อำนวยการแข่งขัน ดีพีเวิลด์ ทัวร์, แอนดรูว์ เหยา ประธานกรรมการบริหาร อมตะ สปริง คันทรีคลับ, เรย์มอนด์ โรส์เซล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง แปซิฟิก ไพน์สปอร์ตส ได้ร่วมพิธีมอบถ้วยรางวัลให้แก่ ธอร์บียอร์น โอเลเซ่น แชมป์ “ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023” และ “ทีเค” รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ ได้รับรางวัลนักกอล์ฟสมัครเล่นยอดเยี่ยมที่ทำคะแนนดีที่สุด
การแข่งขันกอล์ฟไทยแลนด์ คลาสสิก 2023 นอกจากเป็นการแข่งขันของสุดยอดโปรจากทั่วโลก ยังเป็นมิติใหม่ของการจัดการแข่งขันกอล์ฟในสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยม ผู้เข้าร่วมการแข่งขันได้เพลิดเพลินใน Thailand Sports Tourism Village ด้วย Food Park สวนอาหารที่ให้บริการอาหารไทยและนานาชาติ ระดับ มิชลิน บิบ กูร์มองด์ (Michelin Bib Gourmand) และเครื่องดื่มที่หลากหลาย, การชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันทางจอ LED ยักษ์, บรรยากาศสนามกอล์ฟจำลอง Golf Tech Simulator ให้แฟนกอล์ฟได้ทดสอบวงสวิงและทักษะการเล่นกอล์ฟ, การแสดงดนตรีสดจากศิลปินและดีเจชื่อดังของไทย, โซนสำหรับเด็ก (กิจกรรมกีฬาและศิลปะที่สนุกสนานและสร้างสรรค์) พร้อมของรางวัลสำหรับเด็กและร้านขายของที่ระลึกมากมาย และ การโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ในแบบ “THE HIDDEN GEMS OF THAILAND”
ติดตามข่าวสารกิจกรรม กอล์ฟ รายการ ไทยแลนด์ คลาสสิก ได้ที่เว็บไซต์ www.europeantour.com/dpworld-tour หรือทางเฟซบุ๊ก /www.facebook.com/golfthailandclassic และอินสตาแกรม https://www.instagram.com/golfthailandclassic