“เมืองพัทยา” ประกาศความพร้อมแบบเต็มร้อยการจัดแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ พัทยา มาราธอน 2024 บาย มาม่า” กำหนดจัดขึ้น 20-21 ก.ค.นี้ มีจุดปล่อยตัว-เส้นชัย ณ เทอร์มินอล 21 พัทยา ถนนพัทยาเหนือ จ.ชลบุรี “ททท.” เผยยอดนักท่องเที่ยวเมืองพัทยา พุ่งเกินเป้า คาดงานนี้สร้างรายได้สู่ระบบเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 250 ล้านบาท ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน แจ้งปิดรับสมัครแล้วหลังจากเปิดรับสมัครเพียง 2 สัปดาห์ มีจำนวนนักวิ่งและผู้ร่วมเดินทางเฉียด 3 หมื่นคน จาก 66 ประเทศทั่วโลก ด้านตำรวจภูธรภาค 2 เตรียมออกข้อบังคับปิดการจราจร 100% ในช่วงวันแข่งขัน
เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่โรงแรมดุสิตธานีพัทยา นายธวัชชัย ทองศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี มอบหมายให้ นายอำนาจ เจริญศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานแถลงข่าวความพร้อมในการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวนานาชาติ รายการ “Amazing Thailand Pattaya Marathon 2024 presented by MAMA” โดยมี นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา, พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ, นายณัฐ ครุฑสูตร ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), นายบันลือ กุลละวณิชย์ ประธานสภาเมืองพัทยา, นายกฤษณะ บุญสวัสดิ์ รองนายกเมืองพัทยา, นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา, นางสาวทิฐิพันธ์ เพ็ชรตระกูล รองนายกเมืองพัทยา, พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2, พ.ต.อ.จักรพันธุ์ กิตติสิริพรกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี, พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผู้กำกับ สภ.เมืองพัทยา, นายปราจีน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน), นายกอบเกียรติ แสงวนิชย์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน จากไทยแลนด์ไตรลีก, กลุ่มผู้สนับสนุนภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมงานแถลงข่าวอย่างคับคั่ง
นายอำนาจ เจริญศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า “พัทยามาราธอน” ถือเป็นมหกรรมกีฬามวลชนที่ยิ่งใหญ่ มีการจัดงานอย่างต่อเนื่องมาแล้วถึง 30 ปี ตนถือว่าเป็นอีกหนึ่งงานประเพณีประจำปีของจังหวัดชลบุรี ที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าเทศกาลวันไหลหรือเทศกาลวันปีใหม่ โดยในปีนี้ ถือเป็นปีที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนายกเมืองพัทยา ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะทำการยกระดับมาตรฐานของการแข่งขันไปสู่ระดับโลกให้ได้ โดยตั้งเป้าหมายให้พัทยามาราธอน เป็นหนึ่งในมาราธอนที่มีนักท่องเที่ยวอยากเดินทางมาร่วมการแข่งขันมากที่สุดในประเทศไทย ดังนั้น ท่านผู้ว่าฯ จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดทุกภาคส่วนให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนให้เมืองพัทยามีขีดความสามารถในการจัดงานสูงสุด และด้วยองค์ประกอบต่างๆ ของเมืองพัทยา ที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งโรงแรม ที่พัก แหล่งท่องเที่ยว และระบบสาธารณูปโภคที่ดีที่สุดในภูมิภาคตะวันออก ประกอบกับความตั้งใจของผู้บริหารเมืองพัทยาที่ต้องการจะยกระดับของการแข่งขันจากระดับประเทศไปสู่ระดับโลกให้ได้นั้น จังหวัดชลบุรีจึงมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง ว่า “พัทยา มาราธอน” จะได้รับการยอมรับจากนักวิ่งทั่วโลก ว่าเป็นหนึ่งในการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขณะที่ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า จากผลของการจัดงานเมื่อปีที่แล้ว ที่เราสามารถจัดงานออกมาได้เป็นอย่างยอดเยี่ยม ต่อหน้าผู้แทนของสมาคมกรีฑาโลก ทำให้ปีนี้ พัทยามาราธอนได้รับใบรับรองมาตรฐานการจัดการแข่งขันในระดับสากลจากสมาคมกรีฑาโลก ถึง 3 ใบ (3 ระยะแข่งขัน) คือ ระยะมาราธอน 42.195 กม. ระยะฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กม. และระยะ 10 กม. ซึ่งในปัจจุบันถือว่า พัทยามาราธอนเป็นรายการมาราธอนเพียงหนึ่งในสองรายการของประเทศเท่านั้น ที่ได้รับการรับรองจากสมาคมกรีฑาโลกทั้ง 3 ระยะแข่งขันในรายการเดียวกัน และด้วยองค์ประกอบต่างๆ ของการแข่งขัน อาทิ จำนวนผู้เข้าร่วมแข่งขันที่สูงถึง 15,000 คน, จำนวนผู้ร่วมเดินทางอีกเกือบ 15,000 คน, จำนวนการจองห้องพักในช่วงการแข่งขัน มากกว่า 20,000 ห้อง, จำนวนอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ต่างๆ ที่มาร่วมงาน มากกว่า 3,000 อัตรา, การปิดถนน แบบ 100% หรือการสร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของเมืองพัทยาและจังหวัดชลบุรี ได้มากกว่า 250 ล้านบาทนั้น สิ่งเหล่านี้ จึงทำให้ พัทยามาราธอนในปีนี้ เป็นรายการมาราธอนอันดับหนึ่งในภาคตะวันออกของประเทศไทยอย่างเต็มตัว
“ในโอกาสนี้ผมใคร่ขอความร่วมมือจากชาวเมืองพัทยาทุกท่าน ให้เกียรติร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี ในการต้อนรับนักวิ่งและผู้ติดตาม จำนวนมากกว่า 3 หมื่นคน ที่จะเดินทางมาจากทั่วประเทศ และอีก 66 ประเทศทั่วโลก เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในช่วงสุดสัปดาห์ของวันที่ 20-21 ก.ค.นี้ ผมมั่นใจว่า “พัทยา มาราธอน” จะสร้างชื่อเสียงให้แก่เมืองพัทยาเป็นอย่างมาก และจะทำให้เมืองพัทยากลับมาคึกคักกันอีกครั้ง” นายกเมืองพัทยา กล่าวทิ้งท้าย
ทางด้าน นายณัฐ ครุฑสูตร ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมืองพัทยา มีศักยภาพและความพร้อมในทุกๆ ด้าน เป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของทวีปเอเชีย มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายและมีคุณภาพ มีจำนวนห้องพักมากกว่า 100,000 ห้อง ทำให้เมืองพัทยาสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เป็นจำนวนมากตลอดทั้งปี ททท. ขอชื่นชมเมืองพัทยาที่สามารถจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่องในตลอดทุกๆ สัปดาห์ จนทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ตนคาดว่าการแข่งขัน “อะเมซิ่งไทยแลนด์ พัทยา มาราธอน” ในครั้งนี้ จะสร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวแก่เมืองพัทยาและจังหวัดชลบุรี ได้มากกว่า 250 ล้านบาท ตนเชื่อมั่นว่าการจัดงานในครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ จังหวัดชลบุรี และเมืองพัทยา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยินดีให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และหวังว่าผู้เข้าแข่งขันและผู้ร่วมงานจำนวน 3 หมื่นคน จะได้รับความสุขและความประทับใจจากการต้อนรับของชาวเมืองพัทยาและชาวจังหวัดชลบุรีในครั้งนี้
ส่วน พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 กล่าวว่า ตนได้รับการมอบหมายจาก พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ให้มาร่วมในงานแถลงข่าวพร้อมด้วย พ.ต.อ.จักรพันธุ์ กิตติสิริพรกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และ พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผู้กำกับ สภ.เมืองพัทยา ซึ่งท่านผู้บัญชาการฯ เห็นว่าการจัดการแข่งขันรายการนี้ เป็นงานมาราธอนในระดับโลก ที่จะสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศและเมืองพัทยา อีกทั้งยังสร้างรายได้ให้การท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ได้กำชับตนให้การสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลนักวิ่งและประชาชนทั่วไปในด้านความปลอดภัยและการจราจรช่วงการแข่งขัน ทั้งนี้คณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ได้มีการประชุมกับ สภ.เมืองพัทยา เพื่อซักซ้อมและทำความเข้าใจในส่วนของการบริหารจัดการด้านการจราจรบนพื้นที่แข่งขันในโซนต่างๆ มาแล้วหลายครั้ง จนมีความมั่นใจว่าจะสามารถกำกับดูแลการจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงนำเรียนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เพื่อทราบ และได้ขออนุมัติออกข้อบังคับปิดการจราจร ในช่วงการแข่งขันในวันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 04.00 น. ถึงเวลาประมาณ 08.30 น. บนเส้นทางแข่งขันของระยะ 10 กม. และ 4.5 กม. และในวันอาทิตย์ที่ 21 ก.ค.67 ตั้งแต่เวลา 00.00 น. ถึงเวลาประมาณ 11.00 น. บนเส้นทางแข่งขันของระยะมาราธอน 42.195 กม. และระยะฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กม. โดยรายละเอียดทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเมืองพัทยาจะแจ้งให้ทราบในลำดับต่อไป ตนจึงขอความร่วมมือจากทุกท่าน โปรดหลีกเลี่ยงการจราจรบนเส้นทางแข่งขัน ในวันและเวลาที่กำหนด
พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า สมาคมกีฬากรีฑาฯ ได้ให้การสนับสนุน และทำงานร่วมกับเมืองพัทยามาโดยตลอด สมาคมฯ ถือว่ารายการนี้ เป็นหนึ่งในรายการมาราธอนที่จัดต่อเนื่องยาวนานที่สุดของประเทศ โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ตนได้รับรายงานจากผู้แทนของสมาคมฯ ว่า คณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ สามารถจัดงานออกมาได้อย่างดี มีมาตรฐานในระดับสากล มีความปลอดภัย มีคุณภาพในระดับการแข่งขันเกรด A เทียบเท่ารายการมาราธอนระดับโลก ตนจึงทำเรื่องไปยังสมาคมกรีฑาโลก WORLD ATHLETICS เพื่อขอให้รับรองการแข่งขันพัทยามาราธอน ทั้ง 3 ระยะ (มาราธอน, ฮาล์ฟมาราธอน และ 10 กม.) และขอให้สมาคมกรีฑาโลก ได้บรรจุรายการนี้ อยู่ในปฏิทินการแข่งขันมาราธอนโลก สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ สมาคมฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง มาช่วยในฝ่ายเทคนิค เพื่อกำกับดูแลให้การแข่งขันดำเนินไปได้ตามข้อกำหนดของสมาคมกรีฑาโลก และมีมาตรฐานสูงสุด
นายกอบเกียรติ แสงวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยแลนด์ไตรลีก ในฐานะผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า “การแข่งขันในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากนักวิ่งทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแห่งสมัครจนเต็มจำนวน 15,000 คน หลังจากเปิดระบบรับสมัครไปเพียง 2 สัปดาห์ ปีนี้เส้นทางแข่งขัน ให้อยู่ในเมืองพัทยาทั้งหมด โดยนักวิ่งทุกคน จะได้มีโอกาสวิ่งเลียบชายหาดของเมืองพัทยาและชายหาดจอมเทียน ซึ่งถือว่าเป็นรายการวิ่งมาราธอนที่ได้วิ่งเลียบชายหาดที่ยาวที่สุดของประเทศ นอกจากนี้ ยังกำหนดจุดปล่อยตัวและเส้นชัยอยู่ ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ถนนพัทยาเหนือ ซึ่งสามารถรองรับนักวิ่งเป็นจำนวนมากได้ อีกทั้งยังมีความพร้อมในเรื่องที่จอดรถ และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านอื่นๆ มากมาย
“การจัดการแข่งขันครั้งนี้ จะจัดขึ้น 2 วัน คือวันเสาร์ที่ 20 ก.ค. เป็นการแข่งขันระยะ 10 กม. และ 4.5 กม. และวันอาทิตย์ที่ 21 ก.ค. เป็นการแข่งขัน ระยะ 42.195 กม. และระยะ 21.1 กม. จากข้อมูลของการรับสมัคร มีจำนวนนักวิ่งและผู้ติดตามเดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้มากถึง 30,000 คน จาก 66 ประเทศทั่วโลก โดยจะเปิดให้รับอุปกรณ์และเบอร์แข่งขันได้ตั้งแต่วันพฤหัสที่ 18 ก.ค.67 เป็นต้นไป ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ถนนพัทยาเหนือ รายละเอียดของการแข่งขันศึกษาได้ทาง www.pattayamarathon.go.th” นายกอบเกียรติ กล่าวทิ้งท้าย
++++++++++