ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย พร้อมด้วย ทีมงานสตาฟฟ์โค้ช ประกอบไปด้วย โชคทวี พรหมรัตน์ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน , เนบอยซา สตาเมนโควิช ฟิตเนสเทรนเนอร์ และ ซาซ่า โทดิช โค้ชผู้รักษาประตู ขอลดบทบาทจากการทำหน้าที่ในทีมชาติไทย ชุดใหญ่
“โค้ชโต่ย” พา “ช้างศึก” สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตบอล เอเชียน คัพ 2019 ที่ประเทศ ยูเออี ในรอบ 47 ปี ต่อด้วยการคว้ารองแชมป์ ไชน่า คัพ 2019 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และ อันดับ 4 ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 ที่ บุรีรัมย์
“วันนี้ผมก็ได้มาส่งงานและสรุปทุกอย่างให้กับนายกสมาคมฯ” โค้ชโต่ย กล่าวเริ่ม
“จริงๆแล้ว ผมตัดสินใจตั้งแต่ที่บุรีรัมย์แล้วว่า ในเมื่อผลงานไม่ได้ตามเป้า มันก็ต้องถอยออกมา ก็คือลดบทบาทจากตำแหน่งเฮดโค้ชทีมชาติไทย เพื่อให้เป็นคนที่มีความสามารถมาช่วยพัฒนาตรงนี้ ตอนนี้ขอมุ่งสมาธิไปที่การเรียนโปร ไลเซนส์ ที่ญี่ปุ่นก่อน”
“การถอยมาครั้งนี้ ไม่ใช่การลดมาเป็นผู้ช่วย แต่ยังทำงานร่วมกันกับสมาคมฯ อยู่”
“ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้มาทำหน้าที่ตัวเองตรงนี้เพื่อชาติ แต่ก็ผิดหวังเหมือนคนไทยทุกคน ที่ผมไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ คิงส์ คัพ ก็หวังว่าทีมชาติไทยจะพัฒนาไปข้างหน้า ส่วนทีมงานก็เดินสายมาทางฟุตบอล อุดมการณ์ ความคิดผมยังเหมือนเดิม คือการพัฒนานักเตะไทย เพื่อโค้ชทีมชาติมีทางเลือกมากที่สุด เพื่อทีมชาติไทยจะเดินหน้าต่อไป”
“อยากให้แฟนบอลทุกท่านช่วยเชียร์และให้กำลังใจต่อไป ทั้งนักเตะและทีมงานชุดใหม่ที่มาทำงาน ส่วนเรื่องอนาคตตอนนี้ก็ขอโฟกัสที่โปรไลเซนส์ ส่วนข้อเสนอจากที่อื่นๆก็ยังไม่มี” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กล่าวปิดท้าย
สำหรับทีมชาติไทย จะลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ในเดือนกันยายน ซึ่งจะมีการจับสลากแบ่งสายในวันที่ 17 กรกฏาคมนี้