ท้ายตอนที่แล้วจบตรงเปิดตัวคนรู้ใจที่ เคราร์ด ปิเก มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันความฝันของเขาให้เป็นจริง ดังนั้นช่วงแรกของตอนนี้ จะแนะนำพอสังเขปว่าใครเป็นอย่างไรบ้าง
กาเบรียล ฟรานซิสโก การ์เซีย เด ลา ตอร์เร หรือที่ใครก็เรียกกันสนิทสนมว่า “กาบรี” เกิดวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 1979 รับใช้สโมสร บาร์เซโลนา ในฐานะผู้เล่นอาชีพ 7 ปี (ระดับเยาวชนอีก 6 ปี) มีทักษะเป็นกองกลางก็ได้ ตัวรุกตรงกลางหรือตัวรุกฝั่งขวาก็ไม่รังเกียจ ลงสนาม 129 นัด เป็นแชมป์ ลา ลีกา 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย ส่วนประสบการณ์ฝึกสอน เคยทำงานให้ บาร์เซโลนา เบ 1 ฤดูกาล, บาร์เซโลนา เยาวชน 2 ฤดูกาล ก่อนจะเข้ามาดูแล เอฟซี อันดอร์รา เคยเป็นผู้จัดการ เอฟซี ซิยง ในฟุตบอลลีกสูงสุด สวิตเซอร์แลนด์
“กาบรี” อธิบายปฏิกิริยาของคนรอบข้างว่า “ไม่ว่าจะเพื่อนหรือคนในครอบครัว ล้วนประหลาดใจพร้อมตั้งคำถามเกี่ยวกับทางเลือกในครั้งนี้ เนื่องด้วยทุกคนมองว่าเป็นการเสี่ยงที่ไม่คุ้มค่า พวกเขาถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าแน่ใจแค่ไหน เพราะเป็นการเดินทางที่อาจจะยาวนาน การลงทุนนี้มีแนวโน้มจะขาดทุนย่อยยับ แต่ผมเชื่อมั่นในตัว เคราร์ด ผมรู้ดีว่าการทำงานที่ เอฟซี อันดอร์รา จะแตกต่างสิ้นเชิงจากการทำงานในสโมสรใหญ่ แต่เมื่อเดินทางถึง อันดอร์รา ความประทับใจแรกคือสิ่งแวดล้อม ต่อมาก็คือนักเตะที่ผมจำต้องคลุกคลีด้วย เราทุกคนทำงานภายใต้เงื่อนไขจำกัด นักเตะทุกคนมีงานประจำช่วงกลางวัน เราจะเริ่มซ้อมกันในตอนค่ำ”
อัลเบิร์ต ฆอร์เกรา ฟอร์เตีย เกิดวันที่ 3 มีนาคม 1979 ค้าแข้งในตำแหน่งผู้รักษาประตู แต่ไม่มีอะไรโดดเด่น เคยสวมเครื่องแบบ “บาร์ซา” นานนับ 10 ปี แต่ก็วนเวียนแค่มือ 2 มือ 3
แน่นอนว่าลำพังเฮดโค้ชชั้นยอด ย่อมไม่อาจยกระดับสโมสรที่อุดมด้วยนักเตะกึ่งอาชีพกึ่งสมัครเล่น ต่อให้ผู้เล่นส่วนใหญ่นั้นมีชื่อ-ชั้นระดับชาติ แต่ก็เป็นทีมชาติอันดอร์รา
เคราร์ด ปิเก จึงใช้แนวคิด “บาร์เซโลนา คอนเน็คชัน” ดึงผู้เล่นที่เคยใช้ชีวิตในศูนย์ฝึก “ลา มาเซีย” เข้ามาเพื่อช่วยส่งเสริมกลยุทธ์ของ กาบรี ให้เปล่งศักยภาพเต็มที่ โดยเบื้องต้นที่นักเตะที่เคลิ้มมาร่วมทัพ เอฟซี อันดอร์รา ก็ได้แก่ เฟเดริโก เบสโซเน ลูนา, มาร์ตี ริเบโรลา และ อาเดรีย บีลาโนบา (ลูกชาย ติโต บีลาโนบา อดีตผู้ช่วยเทรนเนอร์ของ โฆเซป กวาร์ดิโอลา สมัยพา บาร์เซโลนา ครองโลก)
ในกลุ่มนักเตะดังกล่าว เฟเดริโก เบสโซเน ลูนา ประสบการณ์สูงสุด เพราะอายุ 35 ปีแล้ว เขาเกิดเมื่อวันที่ 23 มกราคม 1984 เกิดที่เมืองคอร์โดบา ประเทศอาร์เจนตินา ถนัดยืนแนวรับฝั่งซ้าย ก่อนจะตกมาถึง เอฟซี อันดอร์รา ก็โชกโชนรับใช้นับ 10 สโมสรทั้งแบบถาวรและแบบยืมใช้ ได้แก่ บาร์เซโลนา ซี, เอสปันญอล บี, กิมนาสติก, สวอนซี ซิตี, ลีดส์ ยูไนเต็ด, ชาร์ลตัน แอธเลติก, สวินดอน ทาวน์, โอลด์แฮม แอธเลติก, สปอร์ติง แคนซัส ซิตี, มิลล์วอลล์ และ ปราต ที่สำคัญคือตอนอยู่ บาร์เซโลนา ซี ก็เคยร่วมเล่นกับ ลิโอเนล เมสซี
เพียง 5 เดือนหลังเข้าสู่ยุคใหม่ เอฟซี อันดอร์รา ก็สามารถเลื่อนชั้นสำเร็จ จนตอนนี้มีแฟนบอลเข้าสนามราว 300-400 คนต่อนัด แตกต่างสิ้นเชิงจากตอนเข้ามาทำงานช่วงแรกที่นับหัวแล้วไม่เกิน 10-15 คน โดยปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา วันที่เลื่อนชั้นสำเร็จ พบแฟนบอลราว 1,500 คน แออัดเข้าไปฉลองใน ปราดา เดล โมเลส
เอฟซี อันดอร์รา เลื่อนชั้นจาก “พริเมรา คาตาลัน” ฤดูกาลหน้าสโมสรนี้จะได้โลดแล่นใน “แตร์เซรา ดิบิซิอน” นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์สโมสร เพราะทำให้พวกเขาโอกาสได้เล่นฟุตบอลถ้วย โคปา เดล เรย์ เป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี เนื่องจากสโมสรตั้งแต่ระดับ “แตร์เซรา” ขึ้นไปจึงจะมีสิทธิ์ร่วมแข่งชิงถ้วยใบนี้ นั่นหมายความว่า เอฟซี อันดอร์รา มีโอกาสได้ลิ้มรสประสบการณ์จากการจัดให้ของบรรดาพี่เบิ้ม อาทิ บาร์เซโลนา, รีล มาดริด, แอตเลติโก มาดริด และ บาเลนเซีย
มาถึงตอนนี้ความฝันของ เคราร์ด ปิเก ที่จะพาสโมสรไปให้ถึงลีกสูงสุดแล้วต่อยอดไปดื่มด่ำค่ำคืนแห่งสมรภูมิยุโรป นับว่าเริ่มต้นก้าวแรกไปแล้ว เพราะนับจาก แตร์เซรา ไต่ขึ้นไปอีกก็เป็น เซกุนดา, ลา ลีกา เมื่อถึง ลา ลีกา ก็ต้องผลักดันสู่การยึดพื้นที่หัวตาราง
กาบรี มองถึงโอกาสที่ เอฟซี อันดอร์รา จะไปประกาศฝีเท้าในเวทีใหญ่สุดของทวีป โดยกล่าวว่า “ผมคิดว่าเราเริ่มต้นทำตามความฝันแล้ว อันดอร์รา คือสโมสรของประเทศ เราต้องการฝากบางสิ่งสวยงามไว้ให้วงการฟุตบอล สโมสรเตรียมแผนระยะยาวไว้ ทุกอย่างต้องใช้เวลา สโมสรแห่งนี้ยังเหมือนเด็ก คุณควรรอดูตอนที่เติบใหญ่”
แฟร์ราน บิลาเซคา ผู้อำนวยการกลุ่ม คอสมอส ที่ดูแลสโมสรแห่งนี้โดยตรง สรุปปิดท้ายว่า “เคราร์ด พูดเสมอว่าความฝันของเขาคือการได้ยินเสียงเพลงรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ดังกระหึ่มบนแผ่นดิน อันดอร์รา ถึงกระนั้น เราต้องไปกันแบบก้าวต่อก้าว ไม่ใช่ก้าวแล้วกระโดด เราตระหนักดีว่าอ่อนด้อยกว่าใครและต้องให้เกียรติทุกสโมสร เรามีความทะเยอทะยาน มีความฝันซึ่งดูยากจะเป็นจริง แต่มันยังมีหนทางสำเร็จ เราต้องการจะเป็นหนึ่งในสโมสรชั้นนำ การเป็นสโมสรตัวแทน อันดอร์รา ได้นำธงชาติไปปักในแผ่นดินสเปนและโบกสะบัดบนเวทีทวีป ไม่เพียงเป็นความภูมิใจของสโมสร หากยังเป็นความภาคภูมิของคนทั้งประเทศ”
ในตอนนี้เท่ากับว่าฟันเฟืองความฝันของ เคราร์ด ปิเก เริ่มขับเคลื่อนแล้วอย่างจริงจัง แต่มันจะราบรื่นตลอดรอดฝั่ง หรือสะดุดหยุดยั้งช่วงใด นั่นคือภาพยนตร์ชีวิตที่ต้องดูกันอีกยาว ตราบเท่าที่กลุ่มทุนยังไม่ถอดใจไปเสียก่อน แต่ที่ได้ลุ้นอันดับแรกในอนาคตอันใกล้แค่ฤดูกาลหน้าก็คือ เอฟซี อันดอร์รา ได้สิทธิ์ร่วมแข่ง โคปา เดล เรย์ (สแปนิช คิงส์คัพ) นั่นหมายความว่า สโมสรในครอบครองของ ปิเก มีโอกาสจะโดนจับสลากไปเจอต้นสังกัดของ ปิเก (อย่า งง) และถ้าสิ่งที่คาดไว้มันเกิดเป็นจริง ไม่แน่ ปิเก อาจเกิดอาการสับสนบทบาท ก็เป็นได้
ปิดท้ายขอพาไปทำความรู้จักกับประเทศอันดอร์รา พอสังเขปว่าทำไม เอฟซี อันดอร์รา จึงโผล่มาร่วมสังฆกรรมในฟุตบอลลีกสเปน โดยผ่านแหล่งข้อมูล th.wikipedia.org ผู้สนใจสามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้ตามอัธยาศัย …ดินแดนปัจจุบันของราชรัฐอันดอร์รา ปรากฏหลักฐานในประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมัน แต่เราจะไม่ย้อนไปไกลขนาดนั้น เอาเป็นว่าช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 9 ต่อเนื่องคริสต์ศตวรรษที่ 10 อันดอร์รา ตกเป็นขอบขันฑ์ของสเปน ในเขตอิทธิพลของ Count of Urgell
ซึ่งต่อมาได้ยินยอมยกดินแดนให้ Bishop of Urgell ต่อมา ค.ศ.1159 มีการสู้รบแย่งชิงดินแดนระหว่างสเปน-ฝรั่งเศส จนถึง ค.ศ.1278 จึงได้มีการลงนามระหว่าง 2 ฝ่าย อันมีผลให้ราชรัฐอันดอร์รา เป็นดินแดนที่มีสถานะเป็นราชรัฐร่วม (Coprincipality) ระหว่างสเปน-ฝรั่งเศส และเมื่อถึงคริสต์ศตวรรษที่ 20 เริ่มยุคของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ วันที่ 14 มีนาคม ค.ศ.1993 ได้มีการลงประชามติให้ราชรัฐอันดอร์รา มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย และมีรัฐธรรมนูญปกครองฉบับแรก (สเปน-ฝรั่งเศส ยกร่างร่วมกัน) ซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1993 รัฐธรรมนูญดังกล่าวกำหนดให้อำนาจอธิปไตยมาจากประชาชน โดยการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎร แบ่งแยกอำนาจบริหารและอำนาจนิติบัญญัติออกจากกัน และยังคงมอบอำนาจให้ประธานาธิบดีฝรั่งเศสและ Bishop of Urgell แห่งสเปน ดำรงตำแหน่งประมุขร่วมกัน
กัปตันโยฮัน
หมายเหตุ : บทความนี้อ้างอิงจาก “Gerard Pique & FC Andorra: Why Barcelona defender bought a fifth-tier Spanish team” เผยแพร่ครั้งแรกโดยสำนักข่าว บีบีซี