นิติพงษ์ ยวนตระกูล ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด และมีเดีย สโมสรเจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ในฐานะตัวแทนสโมสร เดินทางมายื่นหนังสือเรื่องประท้วงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในการแข่งขัน ไทยลีก 2 ณ ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
จากเหตุการณ์ที่สโมสรเสียลูกจุดโทษในแมตช์ที่บุกมาพ่ายต่อ อาร์มี่ ยูไนเต็ด เมื่อวันพุธที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่จังหวะดังกล่าวได้มีการยกธงจากผู้ช่วยผู้ตัดสินก่อนแล้วว่านักเตะของทัพ “สุภาพบุรุษกงจักร” ยืนล้ำหน้า รวมถึงจังหวะดังกล่าวนั้น ลูกบอลหาได้โดนมือนักเตะเจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด แต่อย่างใด จนกลายเป็นกระแสสังคม ที่แฟนฟุตบอลชาวไทยต่างรับรู้ถึงการตัดสินที่ไม่เป็นธรรม และสโมสรเจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายเสียผลประโยชน์
โดยการยื่นหนังสือประท้วงครั้งนี้ ไม่มีตัวแทน หรือเจ้าหน้าที่จากทาง สมาคมฟุตบอลฯ การลงมารับหนังสือจากทาง เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด โดยมีการอ้างจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ว่าไม่ได้รับคำสั่งให้ลงไปรับหนังสือ และไม่ได้อยู่ในขอบข่ายการทำงานของตน
ทาง เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ได้ทำงานยื่นหนังสือเรื่องประท้วงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ไปอีกหนึ่งช่องทาง คือช่องทาง ออนไลน์ ผ่านอีเมล์ และดำเนินการตามขั้นตอนทุกกระบวนการ และทางบริษัทไทยลีก ได้ตอบรับคำประท้วงเรียบร้อยแล้ว
โดย ผจก.ฝ่ายสื่อสารการตลาด และมีเดีย เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด กล่าวเพิ่มเติมว่า “สโมสรต้องการให้ทางสมาคมฯ และฝ่ายจัดการแข่งขัน ให้ความสำคัญกับการพัฒนาในส่วนของผู้ตัดสินมากกว่านี้ เพราะทุกวันนี้ หลายๆ ฝ่ายในวงการฟุตบอลไทยล้วนแต่ช่วยกันขับเคลื่อน ยกระดับ และพัฒนาเพื่อให้ลีกไทยมีความเข้มแข็ง และยั่งยืน แต่ยังมีแค่การทำหน้าที่ของผู้ตัดสินที่เป็นปัญหามาโดยตลอดไม่ว่าจะทั้ง T1 หรือ T2”
“เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด เคารพกับคู่แข่งทุกสโมสร เราเคารพกติกา ผลการแข่งขัน รวมถึงตารางคะแนน แต่ในวันนี้เราอยากจะสร้างบรรทัดฐาน และมาตรฐานให้กับวงการนี้ว่า เราไม่ควรอยู่นิ่งเฉยกับการตัดสินที่ไม่ได้มาตรฐาน และยังเชื่อว่า VAR มีความจำเป็นต่อฟุตบอลไทย ถึงเวลาแล้วที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องรีบนำประเด็นนี้กลับมาพูดคุยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม”
“ทุกวันนี้แต่ละสโมสรล้วนแต่ทำงานกันอย่างหนักทั้งใน และนอกสนาม เพื่อช่วยกันยกระดับวงการฟุตบอลไทย แต่เรากล้าพูดได้เลยว่า หากการตัดสินในบ้านเรายังมีมาตรฐานที่ไม่สม่ำเสมอเช่นนี้ โอกาสที่ฟุตบอลไทยจะเติบโตไปมากกว่านี้ก็คงเป็นไปได้ลำบาก”
“นอกจากนี้ยังฝากไปถึง ไทยลีก และทางสมาคมฯ ว่ากระบวนการวิธีการร้องเช่นนี้ ฝ่ายสโมสรที่เสียผลประโยชน์จากการตัดสินของผู้ตัดสิน แทบจะไม่ได้อะไรจากการยื่นหนังสือประท้วงเลย หากคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท ตัดสินว่าผู้ติดสินผิดจริง ผู้ตัดสินถูกลงโทษ แต่ทางสโมสรก็เสียผลประโยชน์เหมือนเดิม แต่หาก คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท ตัดสินว่า ผู้ตัดสินทำหน้าที่ถูกต้องแล้ว สโมสรกลับเป็นฝ่ายเสียเงินค่าประท้วงไปฟรีๆ”