“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดดาวรุ่งหนึ่งเดียวของไทยในสนามระดับโลก จากโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ของ เอ.พี.ฮอนด้า ฉายแววโดดเด่นอีกครั้งในศึก โมโตทู ชิงแชมป์โลกสนาม 16 เจแปนนีส กรังด์ปรีซ์ ทะยานขึ้นอันดับ 3 ก่อนจบเรซในอันดับ 13 เก็บเพิ่ม 3 แต้มสำคัญ ขณะแชมป์เป็นของ ลูกา มารินี นักบิดอิตาเลียนที่บดเอาชนะ โทมัส ลูธี จอมเก๋าในช่วงท้ายเรซอย่างสุดมันส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่สนามทวินริง โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น
ศึก โมโตจีพี 2019 เดินทางมาถึงสนามที่ 16 ของปี ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่สนามทวินริง โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น ในรายการ เจแปนนีส กรังด์ปรีซ์ ซึ่งนักบิดหนึ่งเดียวของไทยอย่าง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา หมายเลข 35 ลงแข่งขันในคลาส โมโตทู ร่วมกับ อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย เพื่อเดินหน้าล่าแต้มให้ได้อย่างต่อเนื่อง ชิงชัยทั้งสิ้น 22 รอบสนาม
ตำแหน่งโพลในเรซนี้เป็นของ ลูกา มารินี นักบิดอิตาเลียน จาก สกาย เรซซิ่ง วีอาร์46 ส่วนสมเกียรติ ได้ออกตัวในกริดที่ 6 และเริ่มเกมได้อย่างยอดเยี่ยม เพียงรอบแรกขยับแซงขึ้นมารั้งอันดับ 4 จากนั้นในรอบที่ 2 นักบิดไทยแซงขึ้นมาได้อีก 1 คัน อยู่ในพื้นที่ที่มีลุ้นโพเดี้ยมอย่างเต็มตัว ส่วนจ่าฝูงอย่าง อเล็กซ์ มาร์เกซ นักบิดสแปนิชจาก มาร์ค วีดีเอช เกือบพลาดล้มในรอบที่ 2 แต่ยังประคองไว้ได้ในอันดับ 6
ขณะที่กลุ่มผู้นำอย่าง มารินี และ ลอเรนโซ บัลดาสซารี นักบิดอิตาเลียนไล่กดดันกันอย่างหนัก ส่งผลให้ สมเกียรติ นักบิดไทยที่รั้งอันดับ 3 ร่นระยะห่างเข้ามาเหลือไม่ถึง 1 วินาที ในรอบที่ 5 อย่างไรก็ดี สมเกียรติ ที่เสียจังหวะเล็กน้อยในรอบที่ 6 ต้องเสียอันดับ 3 ให้กับ โทมัส ลูธี อดีตนักบิดโมโตจีพี ชาวสวิส แต่นักบิดไทยยังสามารถขี่ได้ดีในอันดับ 4
ในรอบที่ 8 สมเกียรติ โดนกดดันอย่างหนักจากยอดนักบิดของโลกในกลุ่มกลาง ส่งผลให้เสียไปหลายอันดับร่วงลงไปถึงอันดับ 11 ในช่วงเวลา 2 รอบ ก่อนจะร่วงลงไปอยู่ในอันดับ 12 ในช่วง 4 รอบสุดท้าย
ผลการแข่งขันเรซนี้ปรากฏว่าแชมป์ตกเป็นของ มารินี ที่บดแซง ลูธี ได้ใน 2 รอบสุดท้าย บิดเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 40 นาที 52.279 วินาที เฉือน ลูธี อันดับ 2 เพียง 0.560 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ฮอร์เก มาร์ติน ดาวรุ่งชาวสแปนิช ที่ได้ขึ้นโพเดี้ยมในโมโตทูเป็นครั้งแรก ตามหลังแชมป์ 3.593 วินาที
ด้าน สมเกียรติ จันทรา ที่ออกสตาร์ทเรซได้อย่างยอดเยี่ยม และไต่ขึ้นมาสูงสุดถึงอันดับ 3 ต้องเจอแรงกดดันอย่างหนักในช่วงกลางเรซ จบการแข่งขัน เจแปนนีส กรังด์ปรีซ์ ด้วยผลงานยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง เข้าป้ายในอันดับ 13 ตามหลังแชมป์เพียง 15.008 วินาที
ทั้งนี้ ภายหลังจบการแข่งขัน เจแปนนีส กรังด์ปรีซ์ ด้วยอันดับ 13 สมเกียรติเก็บเพิ่ม 3 แต้ม ยังคงรั้งอันดับ 20 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 23 คะแนน โดยสนามถัดไปของ โมโตจีพี จะดวลความเร็วกันที่ ฟิลลิป ไอส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ในรายการออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ ระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคมนี้
แฟนๆ ความเร็วชาวไทยติดตามความเคลื่อนไหว ร่วมเชียร์และให้กำลังใจ “สมเกียรติ จันทรา” หมายเลข 35 นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในสนามระดับโลก รายการ “โมโตทู” ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจรถจักรยานยนต์ฮอนด้า fb.com/hondamotorcyclethailand และแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม fb.com/aphondaracingth