การแข่งขันแบดมินตันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่เมืองมันตินปูล่า สปอร์ต คอมเพล็กซ์ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 62 ประเภททีมหญิง รอบชิงชนะเลิศ
ทัพนักตบลูกขนไก่สาวไทย ดีกรีแชมป์เก่า 3 สมัยซ้อน พบกับ อินโดนีเซีย อดีตแชมป์ 14 สมัย ซึ่งถือเป็นการรีแมตช์รอบชิงฯ เมื่อปี 2011 ที่สาวแดนอิเหนาเป็นเจ้าภาพ แต่ครั้งนั้น สาวไทย บุกไปเอาชนะได้ 3-1 คู่ และครั้งนี้ ทีมไทย ก็ทำผลงาน ได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถ ย้ำแค้น เอาชนะไปได้ ด้วยคะแนน 3-1
โดยมีรายละเอียด คู่แรก เดี่ยวมือ 1 “เมย์” รัชนก อินทนนท์ ชนะ เกรกอเรีย มาริสก้า ทุนจุง 2-1 เกม 21-13 , 12-21 , 21-14
คู่มือ 1 “เอิร์ธ”พุธิตา สุภจิรกุล-“วิว”รวินดา ประจงใจ แพ้ นิ เคตุต มาหาเดวี อิสรานี่-พาริลยานี่ ราฮายู 0-2 เกม 17-21 , 18-21
เดี่ยวมือ 2 “ครีม”บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ ชนะ ฟิไตรนี่ ฟิไตรนี่ 2-0 เกม 21-8 , 21-10
คู่มือ 2 “เบส”ชญานิษฐ์ ฉลาดแฉลม-“จ๋อมแจ๋ม”ผไทมาส เหมือนวงศ์ ชนะ ซิติ ฟาเดีย ซิลวา รามาดาติ-ริบก้า ซูเกียร์โต้ 2-0 เกม 21-8 , 21-17
สรุปผลการแข่งขันทำให้ทีมสาวไทย คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน และนักกีฬาจะได้รับเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติอีกคนละ 300,000 บาท
หลังการแข่งขัน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “ขอชื่นชมนักกีฬาทุกคนที่เล่นได้หัวจิตหัวใจที่แข็งแกร่ง และนักกีฬาทุกคนเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม จนทำให้ทีมประสบความสำเร็จอีกครั้ง และเป็นเครื่องการันตีว่าทีมหญิงไทยคืออันดับ 1 ของอาเซียนในเวลานี้ และเราหวังว่าจะป้องกันแชมป์ให้ได้นานที่สุดในครั้งต่อๆ ไป โดยตอนนี้สมาคมถือว่าทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้วคือคว้าเหรียญทองทีมหญิง และ หลังจากนี้นักแบดมินตันสาวไทยก็จะได้พัก 1 วัน ก่อนที่จะกลับมาลงแข่งขันในประเภทบุคคล ซึ่ง “เมย์” และ “ครีม” จะต้องเดินทางกลับไปเตรียมตัวแข่งขัน “เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอล” ที่จีน ในสัปดาห์หน้า เช่นเดียวกับ “กิ๊ฟ”จงกลพรรณ กิติธรากุล และ “วิว”รวินดา ประจงใจ รวมถึง “บาส”เดชาพล พัววรานุเคราะห์-“ปอป้อ”ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ด้วย
ขณะที่ ประเภทบุคคลทางทีมไทย ยังมุ่งหวังจะสร้างความสำเร็จให้ได้อีก โดยในประเภทหญิงเดี่ยว จะมี “แน็ต”ณิชชาอร จินดาพล และ “หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ขณะที่ ชายเดี่ยว เราก็มีลุ้นเช่นกันจาก “กัน” กันตภณ หวังเจริญ และ “โอ๊ต”สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ ขณะที่ คู่ผสม ชายคู่ และหญิงคู่ ที่เรากวาดมา 3 เหรียญทอง นั่นยอมรับว่าเป็นงานหนัก แต่ถึงอย่างไร ก็ต้องดูว่าแต่ละประเภทจะอยู่สายใดต่อไป”