การแข่งขันแบดมินตันรายการ “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น”โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 23 ม.ค. เป็นการลงสนามแข่งขันวันที่ห้าในรอบรองชนะเลิศ
ประเภทคู่ผสมรอบรองชนะเลิศ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 3 ของโลก ลงสนามพบกับ ซาวีไซราท รานกิเรดดี้ กับ อาชวีนี่ พอนนัพพา คู่มืออันดับ 36 ของโลกจากอินเดีย สำหรับสถิติในการพบกันของทั้งคู่ก่อนหน้านี้เคยพบกันมาทั้งหมด 2 ครั้ง เป็นทาง เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี ที่ทำผลงานได้เหนือกว่าเก็บชัยชนะไปได้ทั้งหมด ล่าสุดในศึก เจแปน โอเพ่น 2019 เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี เอาชนะมาได้
ในแมทช์นี้เกมการแข่งขันทั้งคู่ต่างผลัดกันทำคะแนนได้อย่างสนุกคู่คี่สูสีก่อนที่ เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี จะมาช่วยกันฮึดทำคะแนนแซงชนะไปได้หวุดหวิด 2-1 เกม 22-20 ,18-21, 21-12 ใช้เวลาแข่งขัน 59 นาที เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ แช ยูจุง กับ โซว ซองแจ คู่มือวางอันดับ 4 ของรายการ คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้ สำหรับสถิติในการพบกันระหว่างคู่ของ เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี กับทางด้านแช ยูจุง กับ โซว ซองแจ ก่อนหน้านี้เคยพบกันมาทั้งหมด 8 ครั้ง เป็นทาง เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี ที่ทำผลงานได้เหนือกว่าเก็บชัยชนะไปได้ 5 ครั้ง ล่าสุดในรอบรองฯศึก โยเน๊กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คู่ของ เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี เฉือนเอาชนะมาได้ 2-1 เกม
บาส–เดชาพล และ ปอป้อ-ทรัพย์สิรี เผยว่า “ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้ เราต้องการคว้าแชมป์ เราซ้อมตามแผนที่วางกันมา 8-9 เดือน แล้วนำมาใช้และประสบความสำเร็จ สำหรับคู่นี้เคยเจอมา 2 ครั้ง แต่นานมากแล้ว ในครั้งนี้ก็มีการปรับเปลี่ยนแก้ไขข้อผิดพลาดมา ผู้ชายตีหนักมาก สิ่งที่ทำให้เราชนะได้ในแมตช์นี้คือพยายามหาช่องว่างในการวางลูกเพื่อทำแต้มให้ได้เยอะที่สุด หากตีเขามือคู่แข่งโอกาสที่เขาจะตบทำแต้มมีเยอะ”
“ในการเจอกับเกาหลีใต้ในรอบชิงชนะเลิศวันพรุ่งนี้ เราต้องเล่นตามแผนที่เราวางไว้ พยายามคุมเกมคุมสมาธิ เชื่อว่าคู่แข่งต้องเตรียมปรับเปลี่ยนแผนเพราะเคยเจอกันมาแล้ว เราก็ต้องเตรียมแก้ไขเช่นกัน ฝากแฟนๆ กีฬาเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วย เราจะพยายามคว้าแชมป์มาครองให้ได้อีก” ทั้งคู่ กล่าว
ประเภทหญิงเดี่ยวรอบรองชนะเลิศ “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือ 5 ของโลก และมือวางอันดับ 4 ของรายการ ลงสนามพบกับ ไถ้ ซื่อหยิง มือ 1 โลกและมือวางอันดับ 1 ของรายการ จากไต้หวัน สำหรับสถิติในการพบกันของทั้งคู่ก่อนหน้านี้เคยพบกันมาทั้งหมดมากถึง 27 ครั้ง เป็นทาง รัชนก ที่ทำผลงานได้เหนือกว่าเพียงเล็กน้อยเก็บชัยชนะไปได้ 14 ครั้ง แต่ล่าสุดในศึก เวิลด์ทัวร์ ไฟนอล 2019 ไถ้ ซื่อหยิง เฉือนเอาชนะมาได้
ในแมทช์นี้เกมแรก รัชนก เป็นฝ่ายที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเร่งทำคะแนนเอาชนะไปได้ 21-12 จากนั้นในเกมที่สอง ไถ้ ซื่อหยิง เร่งสปีดเกมทำคะแนนได้เหนือกว่าจนเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้สำเร็จ 21-12 ตีเสมอเป็น 1-1 เกม ต้องมาตัดสินในเกมที่สาม
เกมตัดสินช่วงต้นเกม ไถ้ ซื่อหยิง ยังคงทำได้เหนือกว่าออกนำ 8-3 แต่ รัชนก มาเร่งเกมบุกทำคะแนนไล่แซงขึ้นนำได้ในช่วงพักครึ่งเกม 11-10 รัชนกกลับมาเป็นฝ่ายที่คุมเกมทำคะแนนออกนำไปโดยตลอดจนเข้าสู่ช่วงปลายเกม รัชนก ขยับออกนำ 20-16 ไถ้ ซื่อหยิง ไม่ออกอาการตื่นตระหนกแต่อย่างใดพยายามไล่ทำคะแนนได้รวดเดียวมากถึงห้าคะแนนติด พลิกแซงขึ้นนำ 21-20 รัชนก มาฮึดทำคะแนนตามตีเสมอ 21-21 ก่อนที่ ไถ้ ซื่อหยิง จะมาเร่งเกมทำสองคะแนนสำคัญของแมทช์ได้สำเร็จแซงชนะไปได้ในเกมตัดสิน 23-21 ใช้เวลาแข่งขัน 59`นาที
เมย์-รัชนก เผยหลังเกมว่า “เป็นแมตช์ที่สนุก ต่างคนต่างหาจังหวะ มีช่วงที่เสียเป็นชุด ได้เป็นชุดทั้งคู่ เราสองคนรู้ทางกันดี มีลูกที่จังหวะยากกว่าเดิมทำให้เกมเปลี่ยนเสิร์ฟกันเร็ว การแข่งขันในวันนี้มาวัดช่วงท้าย ซึ่งเมย์มาอยู่ในฝั่งที่ออกลูกได้ไม่เต็มสปีด ถ้าออกแรงเกินลูกสามารถออกได้ คุมได้ยากกว่าอีกฝั่งหนึ่งซึ่งใส่ได้เต็มจังหวะ บางทีเมย์อาจวางแผนการเล่นฝั่งตามลมได้ไม่ค่อยดี ในจังหวะสโตรกเกมแรลลี่เราต้องหาจังหวะบุกให้ได้ หากเป็นฝ่ายบุกจะได้เปรียบกว่า แต่ซื่อหยิงบีบไม่ให้เมย์ได้ขึ้นไม้สูง แทงออกข้างมากกว่า โดยรวมค่อนข้างพอใจ แต่ผิดหวังช่วงท้ายที่ปิดแมตช์ไม่ได้ ตอนนั้นไประวังเกินไป ไม่อยากเสียง่าย ลูกที่ตีออกไปประสิทธิภาพแทบไม่มี ขณะที่ซื่อหยิงตีลูกออกมาได้เต็มสปีดและกล้าเล่นมากกว่า”
“ในเกมที่สอง ซื่อหยิง อยู่ในฝั่งที่สามารถตีลูกได้เต็มสปีดเหมือนช่วงท้ายเกมที่สาม และเมย์ยังไม่คุ้นชินกับสปีดเร็วๆ ที่เขาตีมาซึ่งเปลี่ยนไปจากเกมแรก จึงยั้งๆ มือ ทำให้คู่แข่งเล่นได้ตามเกมตัวเองง่ายกว่า ช่วงท้ายเกมที่สามไม่เชิงกดดัน แต่เราปิดเกมไม่ได้มากกว่า เคยเจอความกดดันแบบนี้บางครั้งสามารถชนะได้เลย บางครั้งก็ทำไม่ได้ ขึ้นอยู่กับจังหวะด้วย วันนี้ไม่ได้เสียใจ แต่เสียดายมากกว่า สำหรับการแข่งขันเวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์ในสัปดาห์หน้า ผู้เล่นทั้ง 8 คน ต่างมีประสบการณ์และมีการเตรียมพร้อมที่ดี เมย์จะพยายามเตรียมตัวให้พร้อมและทำให้ดีที่สุด” รัชนก กล่าว
สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆ มีดังนี้ ประเภทคู่ผสม แช ยูจุง กับ โซว ซองแจ คู่มือวางอันดับ 4 ของรายการ คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้ ชนะ หู ปังรอง กับ เซี๊ยะ ยี่ซี คู่มืออันดับ 35 ของโลกจากมาเลเซีย 21-9, 21-16
ประเภทหญิงคู่ ลี โซฮี กับ ชิน เซืองชาน คู่มือวางอันดับ 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 4 ของโลกจากเกาหลีใต้ ชนะ เกรเซีย โพลี่ กับ อาพริลยานี่ ราฮายู คู่มือวางอันดับ 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 8 ของโลกจากอินโดนีเซีย 21-16, 21-18, คิม โซยอง กับ กอง ฮียอง คู่มือวาง 4 ของรายการ คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้ ชนะ โชว เหม่ยกวน กับ หลี่ เหม็งหยวน คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากมาเลเซีย 21-17, 21-6
ประเภทหญิงเดี่ยว คาโรลิน่า มาริน มือวางอันดับ 5 ของรายการ มืออันดับ 6 ของโลกจากสเปน ชนะ อัน เซยอง มือวางอันดับ 7 ของรายการ มืออันดับ 9 ของโลกจากเกาหลีใต้ 21-19, 21-15
ประเภทชายคู่ อารอน เชี๊ยะ กับ โซ วูยิค คู่มือวาง 8 ของรายการ คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากมาเลเซีย ชนะ ซาวีไซราท รานกิเร็ดดี้ กับ ชีราท เช็ตตี้ คู่มืออันดับ 10 ของโลกจากอินเดีย 21-18, 21-18, หลี่ หยาง กับ หวัง ฉีหลิน คู่มือวาง 6 ของรายการ คู่มืออันดับ 7 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ โมฮาเหม็ด อัสซาน กับ เฮนดร้า เซเทียวาน คู่มือวาง 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 2 ของโลกจากอินโดนีเซีย 14-21, 22-20, 21-12
ประเภทชายเดี่ยว ฮันส์-คริสเตียน วิตติ้งฮุส มืออันดับ 42 ของโลกจากเดนมาร์ก ชนะ อันเดรส แอนทอนเซ่น มือ 3 ของโลก และมือวางอันดับ 3 ของรายการ เพื่อนร่วมจากเดนมาร์ก 21-19, 21-8