เดินหน้ารักษาตำแหน่งผู้นำการชิงแชมป์มวยไทย-มวยโลกอย่างต่อเนื่อง สภามวยโลกมวยไทย(WBC Muaythai) และ สภามวยแห่งเอเซีย(WBC Asia) โดย “บิ๊กโก” พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ เปิดศักราชใหม่ปี 2565 เซ็นปากกาอนุมัติชิงแชมป์อีก 4 คู่ พร้อมยืนยันรักษาคุณภาพดีที่สุด เพื่อเป็นสถาบันหลักของวงการมวยระดับนานาชาติตลอดไป
ช่วงโควิดระบาด แม้การเดินทางระหว่างประเทศจะยากลำบากบานปลายไปทั่วทั้งโลก นักมวยจะไปชิงแชมป์ต่างบ้านต่างเมือง กว่าจะลงตัวกันจริงๆก็เล่นเอาคนจัดเหงื่อตก ซึ่งถ้าไม่ใช่รายการใหญ่จริงมักจะถูกขอเลื่อนหรือไม่ก็หาคู่ชกภายในประเทศเปิดศึกสายเลือดกันเองไปก่อน
สำหรับ พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ เข้าใจสถานการณ์ความเป็นจริง แม้จะต้องอนุมัติมวยชิงแชมป์ตามกระแสโควิดเพื่อให้ทุกอย่างมีการเคลื่อนไหว แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่อาจละเลยคือเรื่องคุณภาพคู่มวย ยังคงรักษามาตรฐานให้ดีที่สุด จึงทำให้แบรนด์ WBC Asia และ WBC Muaythai แข็งแกร่งได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากสมาชิกไม่ขาดสาย เป็นสถาบันอันดับหนึ่งที่มีการชิงแชมป์ติดต่อกันมาหลายปี โดยปีนี้ยังคงจัดเต็ม มีคู่มวยที่เหมาะสมได้รับไฟเขียวไปแล้ว 4 คู่รวด โดยอนุมัติไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ดังนี้
คู่แรก ชิงแชมป์ WBC Asia เฉพาะกาล เป็นรุ่นไลท์เวต 135 ปอนด์ ระหว่าง Fedor Papazov ชาวรัสเซีย กับ Akzhol Sulaimanbek Uulu ชาวคีร์กีซสถาน (โดยแชมป์ตัวจริงเป็นของ อภิเชษฐ์ เพชรมณี ชาวไทย” ทั้งคู่จะทำการแข่งขันวันที่ 29 มกราคม 2565 ที่สนามกีฬายากาเตรินบุร์ก ประเทศรัสเซีย
คู่สอง ป้องกันแชมป์ WBC Asia Silver รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต 115 ปอนด์ ระหว่าง ก้องฟ้า ซีพีเฟรชมาร์ท แชมป์ชาวนครปฐม กับ เพชรสยาม เพชรปตอ. มวยดาวรุ่งชาวร้อยเอ็ด แข่งขันวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ที่เวทีมวยนานาชาติ รังสิต
คู่สาม ชิงแชมป์โลก(ว่าง) WBC Muaythai หญิง รุ่นไลต์เวต 135 ปอนด์ ระหว่าง Niamh Kinehan ชาวอังกฤษ กับ Imane Cheera ชาวแอลจีเรีย-ฝรั่งเศส ทำการแข่งขันวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ที่เมืองโบลตัน ประเทศอังกฤษ
คู่ที่สี่ ชิงแชมป์โลก(ว่าง) WBC Muaythai อินเตอร์เนชั่นแนล รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวต 154 ปอนด์ ระหว่าง Jonathan Aiulu ชาวออสเตรเลีย กับ Luis Cajaiba (หลุยส์ คาใจบ้า) ชาวบราซิล แข่งขันวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ที่ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ด้านบิ๊กโก เผย “การจัดมวยระดับนานาชาติยุคปัจจุบันแม้จะมีความยากลำบาก แต่ถึงอย่างไรก็ต้องเป็นคู่มวยที่แฟนๆยอมรับด้วย เพื่อรักษาคุณภาพขององค์กรรวมถึงนักมวย และเพื่อเป็นสถาบันหลักของวงการมวยระดับนานาชาติต่อไป”