โปรอุดร ดวงเดชา สวิงจอมเก๋าจากเชียงใหม่ แผลงฤทธิ์ด้วยการทำ 2 เบอร์ดี้สุดท้ายเฉือนชนะ โปรเล็ก ถาวร วิรัตน์จันทร์ รับแชมป์กอล์ฟอาชีพอาวุโส รายการ “ซีเนียร แอนด์ แกรนด์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ” ณ สนามกอล์ฟอาทิตยา กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท จ.นครนายก เมื่อวันพุธที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา รับแชมป์พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมประเดิมแชมป์ตั้งแต่รายการแรกของตัวเองในศึกกอล์ฟอาชีพอาวุโสไทย
การแข่งขันรายการนี้จัดโดยสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพอาวุโสไทย ด้วยการสนับสนุนจากบริษัท เอ็ม เค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด และสปอนเซอร์ต่างๆที่ร่วมสนับสนุนมากมาย ซึ่งจะเป็นการแข่งขัน 2 รุ่น ประกอบไปด้วย รุ่น ซีเนียร์โปร (อายุ 50 ปีขึ้นไป) แข่งขันแบบสโตรคเพลย์ 2 วัน 36 หลุม ชิงเงินรางวัลรวม 500,000 บาท (อันดับ 1-60 หรือเสมอใช้ระบบเค้าน์แบ็ค) และรุ่น แกรนด์ ซีเนียร์ (อายุ 70 ปีขึ้นไป) แข่งขันแบบสโตรคเพลย์ 1 วัน 18 หลุม ชิงเงินรางวัลรวม 70,000 บาท (อันดับ 1-20)
จบการแข่งขันในวันที่ 2 (วันที่ 16 ธ.ค. 2563) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของรุ่น ซีเนียร์ โปร ผลปรากฏว่า โปรอุดร ดวงเดชา สวิงวัย 50 ปีจาก เชียงใหม่ ที่ถือเป็นรุคกี้ในทัวร์ และลงหวดในศึกกอล์ฟอาชีพอาวุโสไทยเป็นรายการแรก ปิดฉากรอบสุดท้ายด้วยการทำไป 8 เบอร์ดี้ 2 โบกี้ ทำสกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 66 โดยเฉพาะการทำ 4 เบอร์ดี้ จาก 5 หลุมสุดท้าย ทำสกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 133 เฉือนเอาชนะ โปรเล็ก ถาวร วิรัตน์จันทร์ สวิงรุ่นพี่จากนครปฐม ไปแค่สโตรคเดียว รับแชมป์พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท ไปครอง ขณะที่ โปรเล็ก คว้าเงินรางวัลไป 30,000 บาท
แชมป์รายการนี้นับเป็นแชมป์แรกของ โปรอุดร ในการลงหวดของสมาคมกอล์ฟอาชีพอาวุโสไทย และเป็นรายการที่ 2 ติดต่อกันในรายการกอล์ฟระดับ ซีเนียร์ หลังซิวแชมป์ สิงห์ ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ ทัวร์ 2020 รายการที่ 6 ที่สนามกบินทร์บุรี สปอร์ต คลับ จ.ปราจีนบุรี เมื่อต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยหลังจบการแข่งขัน โปรอุดร เผยว่า “ดีใจ และขอขอบคุณการต้อนรับอันอบอุ่นของบรรดาเพื่อนๆ พี่ๆ ร่วมอาชีพ กับการได้โอกาสลงหวดในระดับ ซีเนียร์ วันนี้เกมโดยรวมของตัวเองมาครบหมด ทั้งไดร์เวอร์, เหล็ก และพัตเตอร์ อีกทั้งก็กำลังมั่นใจด้วย หลังเพิ่งคว้าแชมป์ ทีซีที มาหมาดๆด้วย”
โปรอุดร ยังเผยต่อว่า “สำหรับต่อไปของตัวเอง ณ ตอนนี้ก็จะยังคงจะพยายามฝึกซ้อมร่างกาย และเกมกอล์ฟต่อไป เพราะตั้งเป้าหมายเอาไว้ในการจะคัดเลือกเพื่อไปเล่นในศึก เจแปน ซีเนียร์ ทัวร์ ที่ประเทศญี่ปุ่น ต่อไป สุดท้ายนี้ก็อยากจะขอบคุณสมาคมที่จัดให้มีแมตช์ดีๆแบบนี้ และถือเป็นได้มีโอกาสพบปะสังสรรค์ระหว่างบรรดานักกอล์ฟสูงวัย ที่จะได้มีกิจกรรม และอยากจะฝากเนื้อฝากตัวกับพี่ๆทุกคน”
อันดับ 3 ตกเป็นของ โปรหมาย ประหยัด มากแสง ที่รอบนี้หวดเพิ่มเข้ามาอีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 ทำสกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 136 รับเงินรางวัลไป 20,000 บาท โดยที่มี โปรชูชีพ นิราช ที่รอบนี้ทำเพิ่มอีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 ทำสกอร์รวม 6 อันเดอร์พาร์ 138 คว้าเงินรางวัล 15,000 บาท ขณะที่ อวยชัย ภูริปัญญานนท์ คว้าอันดับ 4 จากสกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 140 คว้าเงินรางวัล 12,500 บาท ด้าน ธนยศ ทับทิม และ พจน์ ประจักษ์ธนาทร คว้าอันดับ 6 ร่วมจากผลงานรวม 3 อันเดอร์พาร์ 141 คว้าเงินรางวัลไปคนละ 10,750 บาท