วีรวิชญ์ นาคประชา สวิงดาวรุ่งวัย 15 ปี จากกรุงเทพฯ เก็บได้อีก 3 อันเดอร์พาร์ 67 แซงขึ้นเป็นผู้นำร่วมหลังจบรอบสาม กับ เยสซี่ วาราลินน่า จากฟินแลนด์ และบิลลี่ เคาธอร์น จากออสเตรเลีย ที่สกอร์รวม 6 อันเดอร์พาร์ 204 ขณะที่บุคคลหญิงนำร่วม 5 คน ในการแข่งขันกอล์ฟสมัครเล่นชิงแชมป์ประเทศไทย “สิงห์ ไทยแลนด์ อเมเจอร์ โอเพ่น ครั้งที่ 85” ชิงถ้วยพระราชทาน รัชกาลที่ 7 ณ สนามปัญญาอินทรากอล์ฟคลับ พาร์ 70 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา
สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ฯ ร่วมกับ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด, การกีฬาแห่งประเทศไทย และผู้ร่วมสนับสนุน จะจัดการแข่งขันกอล์ฟสมัครเล่นชิงชนะเลิศประเทศไทย รายการ “สิงห์ ไทยแลนด์ อเมเจอร์ โอเพ่น 2019” ชิงถ้วยพระราชทาน รัชกาลที่ 7 ระหว่างวันที่ 1-4 ตุลาคม 2562 ณ สนามปัญญาอินทรากอล์ฟตลับ(คอร์สบี และซี) พาร์ 70 ชายแข่งระยะ 6,812 หลา หญิงแข่งระยะ 6,008 หลา ผู้ชนะเลิศประเภทบุคคลชาย ได้ครองถ้วยพระราชทาน รัชกาลที่ 7 ส่วนประเภทบุคคลหญิง ครองถ้วยเกียรติยศ นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ โดยมีนักกอล์ฟจากประเทศต่างๆ 16 ชาติรวม 130 คน ร่วมชิงชัย ได้แก่ ออสเตรเลีย,ฟินแลนด์,ฮ่องกง,อินเดีย,อินโดนีเซีย,ญี่ปุ่น,เกาหลี,เลบานอน,มาเลเซีย,เนปาล,ฟิลิปปินส์,สิงคโปร์,ไต้หวัน,สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์,บาห์เรน และประเทศไทย
ล่าสุดเมื่อ 3 ต.ค.62 ชิงชัยรอบที่สาม ในประเภทชาย “พีเจ” วีรวิชญ์ นาคประชา สวิงดาวรุ่งวัย 15 ปี จากกรุงเทพฯ เก็บได้อีก 3 อันเดอร์พาร์ 67 จาก 5 เบอร์ดี้ที่หลุม 1,10,11,16,17 เสียสองโบกี้ที่หลุม 13,14 สกอร์รวมสามวัน 6 อันเดอร์พาร์ 204 ขึ้นมานำร่วมกับ เยสซี่ วาราลินน่า วัย 21 ปี จากฟินแลนด์ ที่วันนี้ทำได้ 4 อันเดอร์พาร์ 66 และบิลลี่ เคาธอร์น วัย 21 ปี จากออสเตรเลีย ที่เก็บได้อีก 2 อันเดอร์พาร์ 68 ขณะที่ “นก” ชนม์เจริญ บารมีธนเศรษฐ์ วัย 19 ปี จากนครสวรรค์ ผู้นำรอบสอง ตีเกิน 1 โอเวอร์พาร์ 71 รวม 4 อันเดอร์พาร์ 206 รั้งอันดับ 7 ร่วม ส่วน”เอด้า” นพรัฐ พานิชผล แชมป์เก่า ดีกรีทีมชาติชุดซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ รอบนี้ขยับขี้นมาที่อันดับ 16 ร่วม จากการทำ 3 อันเดอร์พาร์ 67 สกอร์รวม 2 โอเวอร์พาร์ 212
วีรวิชญ์ นาคประชา ผู้นำร่วมประเภทชาย เผยว่า “วันนี้เปิดมาหลุมแรกทำได้ดีเลยครับ แล้วประคองพาร์มาเรื่อยๆจนถึงหลุม 10 และ 11 มาได้เบอร์ดี้อีก จากนั้นก็มาเสียสองโบกี้ติดที่หลุม 13 และ 14 อารมณ์เสียนิดหน่อย สำหรับการเล่นในวันสุดท้ายหลุมแรกๆคงเซฟดูเชิงไปก่อนว่าเป็นอย่างไรแล้วค่อยตัดสินใจต่อไปครับว่าจะบุกหรือจะประคอง ถ้าเกิดนำก็จะเล่นประคองไปเรื่อยๆถ้าไม่นำคงสู้เต็มที่ รายการนี้ผมเล่นเป็นครั้งที่สองครั้งแรกจบสี่วันสกอร์บวกสี่ ถือว่าปีนี้ผลงานดีกว่าปีที่แล้วมากครับ ”
ในประเภทหญิง “ควีน”พรรณรายณ์ มีสมอรรถ วัย 14 ปีจากชลบุรี รองแชมป์เมื่อปีที่แล้ว ที่แม้จะตีเกินไป 1 โอเวอร์พาร์ 71 ในรอบนี้แต่อาศัยบุญเก่ารั้งจ่าฝูงร่วมกับ “ใบหยก”บุษปภาพร สุขเติม วัย 13 ปีจากกรุงเทพฯ ผู้นำรอบสอง, คัง ฮียอนจี ผู้นำรอบแรกจากสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ,มินามิ คิโยโมโต้ และโชกะ ฟูรูย่า สองสาวจากญี่ปุ่น ที่สกอร์รวมคนละ 1 อันเดอร์พาร์ 209
พรรณรายณ์ มีสมอรรถ ผู้นำร่วมรอบสาม กล่าวว่า “วันนี้ตี 1 โอเวอร์พาร์ จาก 3 เบอร์ดี้ 2 โบกี้ และ 1 ดับเบิ้ลโบกี้ ไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ แต่กลับมาได้ขนาดนี้ก็ดีใจแล้ว เกมโดยรวมวันนี้ก็ไม่ค่อยดียังผิดลูกง่ายๆเหมือนเดิม มีพัตต์และลูกแอพโพรชที่ยังไม่ดีเท่าไหร่ เหลืออีกวันเดียวคาดหวังว่าอยากจะได้ที่ 1 แต่ก็ไม่อยากกดดันตัวเองดีกว่า อยากตีตามแผน แค่ทำอันเดอร์ได้ก็น่าจะชนะแล้วค่ะ”
สำหรับการแข่งขันในรอบสุดท้าย (4 ตค.) กลุ่มผู้นำบุคคลหญิง ประกอบด้วยมินามิ คิโยโมโต้ (ญี่ปุ่น), พรรณรายณ์ มีสมอรรถ, โชกะ ฟูรูย่า(ญี่ปุ่น) และคัง ฮีออนจี (สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์) จะออกเล่นที่หลุม 1 เวลา 07.10 น. ส่วนกลุ่มผู้นำชายประกอบด้วย เยสซี่ วาราลินน่า (ฟินแลนด์), วีรวิชญ์ นาคประชา, บิลลี เคาธอร์น (ออสเตรเลีย) และพรหมพจน์ ทรงกลด จะออกเล่นด้านหลุม 1 ในเวลา 08.50 น. ทั้งนี้ในพิธีปิด ได้รับเกียรติจาก นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ มามอบรางวัล ในเวลา 15.00 น.
ผลการแข่งขันรอบสาม (3 ตค.)
ประเภทชาย
1. (-6) 204 วีรวิชญ์ นาคประชา 69-68-67, เยสซี่ วาราลินน่า (ฟินแลนด์) 72-66-66, บิลลี่ เคาธอร์น (ออสเตรเลีย) 68-68-68
4. (-5) 205 พรหมพจน์ ทรงกลด 71-67-67, วิชญ์ ปิติพัฒน์ 68-68-69, เจมส์ คอนแรน (ออสเตรเลีย) 68-68-69
7. (-4)206 วาริษ มั่นธรณ์ 69-67-70, ชนม์เจริญ บารมีธนเศรษฐ์ 68-67-71
ประเภทหญิง
1. (-1) 209 มินามิ คิโยโมโต้ (ญี่ปุ่น) 71-70-68, พรรณรายณ์ มีสมอรรถ 68-70-71, โชกะ ฟูรูย่า(ญี่ปุ่น) 69-69-71, คัง ฮียอนจี (สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์) 67-70-72, บุษปภาพร สุขเติม 68-67-74
6. (+1) 211 สรัลชนา รัตนสินธุ์ 70-68-73
7. (+3) 213 หลิง จี-เฉิน (ไต้หวัน) 69-74-70, ปนัสยา สมจิตต์ 74-67-72