โปรเรย์ อมรินทร์ กรัยวิเชียร นักกอล์ฟหนุ่มวัย 26 ปีจาก กรุงเทพฯ พร้อมด้วย โปรนุ้ก บุษบากร สุขพันธ์ นักกอล์ฟสาวฝีมือดีวัย 25 ปีจาก จ.เชียงราย ตอบรับร่วมแข่งขันแมตช์เปิดสนามกอล์ฟผสม ชาย-หญิง รายการ “ไทยแลนด์ มิกซ์ คัพ 2023” กับการแข่งขันแบบสโตรคเพลย์ 4 วัน 72 หลุม นักกอล์ฟชาย-หญิง 144 ราย ชิงเงินรางวัลรวม 3.45 ล้านบาท วันที่ 11-14 พฤษภาคม 2566 ที่สนาม เซนต์แอนดรูว์ส 2000 จ.ระยอง
สนามนี้นับเป็นแมตช์เปิดซีซั่นของการแข่งขัน “ไทยแลนด์ มิกซ์ โฮสต์บาย ทรัสต์กอล์ฟ 2023” ซึ่งปีนี้จะชิงชัยกันทั้งสิ้น 5 สนามแข่งขันทั่วประเทศไทย และนับเป็นหนึ่งใน 2 รายการเปิดสนามที่จัดแข่งขัน 2 สัปดาห์ติดที่สนาม เซนต์แอนดรูว์ส 200 จ.ระยอง โดยสนามที่ 2 เป็นการแข่งขันรายการ “ไทยแลนด์ มิกซ์ สเตเบิลฟอร์ด ชาลเล้นจ์” และพร้อมกันนั้นปีนี้ในศึก ไทยแลนด์ มิกซ์ ทุกรายการมีการเพิ่มเงินรางวัลรวมจากเดิมชิงเงินรางวัลรายการละ 3 ล้านบาทเป็นชิงเงินรางวัลรวม 3.45 ล้านบาทอีกด้วย
โปรเรย์ อมรินทร์ กรัยวิเชียร นักกอล์ฟวัย 26 ปีจากกรุงเทพ ที่เพิ่งปลดล็อคซิวแชมป์ระดับอาชีพรายการแรกให้ตัวเองหมาดๆจากการแข่งขัน ไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ รายการ สิงห์ เอสเอที ปราจีนบุรี แชมเปี้ยนชิพ 2023 ที่สนามกบินทร์บุรี เป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่ตอบรับร่วมแข่งขัน เช่นเดียวกับ โปรนุ้ก บุษบากร สุขพันธ์ สวิงสาววัย 25 ปี จาก จ.เชียงราย ที่ผ่านประสบการณ์แข่งขันทั้งใน และต่างประเทศมากมาย
โปรเรย์ เผยถึงความพร้อมของตัวเองว่า “ปัจจุบันก็ยังเตรียมความพร้อมด้านร่างกายเป็นหลัก มีโอกาสพักไป 1 สัปดาห์ หลังผ่านการแข่งขันมา 2 สัปดาห์ติด ทำให้ร่างกายเริ่มกลับมาสดชื่นอีกครั้ง ประกอบกับการแข่งขัน ไทยแลนด์มิกซ์ฯ มีจัดแข่ง 2 รายการที่สนาม เซนต์แอนดรูว์ส สนามที่ผมไม่ได้เล่นมานานกว่า 12 ปี จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ช่วงนี้กำลังปรับตัวเองกับอุปกรณ์ใหม่ด้วย มองว่าตัวเองยังพัฒนาต่อยอดไปได้อีก หลังเพิ่งคว้าแชมป์ระดับอาชีพรายการแรกให้ตัวเองเมื่อสัปดาห์ก่อนนี้”
“กับการแข่งขันทั้ง 2 รายการของ ไทยแลนด์ มิกซ์ ที่มีระบบแข่งขันที่แตกต่างกันทั้ง สโตรกเพลย์ และ สเตเบิลฟอร์ด คงต้องมีการวางแผนการเล่นให้ดี โดยเฉพาะระบบสเตเบิลฟอร์ด ที่อาจจะต้องเปิดเกมรุกให้มากขึ้น โดยไม่ได้คาดหวังเรื่องอันดับอะไร เพราะไม่อยากกดดันตัวเอง แต่ทำให้เต็มที่มากที่สุดพอ”
โปรนุ้ก นักกอล์ฟสาวที่มีประสบการณ์แข่งขันในเวที แอลพีจีเอ ทัวร์, แอปสัน ทัวร์, เจแปน ทัวร์ และ ไต้หวัน แอลพีจีเอ ทัวร์ ที่ปัจจุบันยังแข่งขันใน ไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ กล่าวว่า “ยังคงเตรียมร่างกายอยู่สม่ำเสมอ ปีนี้ผลงานโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และไม่เคยมาเล่นในสนามนี้มาก่อน คงต้องมีการวางแผนการเล่นกันให้ดี โดยเฉพาะเรื่องเลย์เอ้าต์สนาม ตั้งเป้ากับตัวเองที่อันดับท็อป 5 และตื่นเต้นทุกครั้งที่มาเล่นใน ไทยแลนด์ มิกซ์ เพราะแต่ละครั้งที่ลงเล่นได้เห็นอะไรใหม่ๆมากมาย ซึ่งนำใช้ในพัฒนาตัวเองได้ดี โดยเฉพาะการเล่นของนักกอล์ฟผู้ชาย”
สำหรับรายการนี้ยังเปิดโอกาสให้นักกอล์ฟที่แข่งขันใน ไทยแลนด์ มิกซ์ คิว สกูล 2023 แข่งขันรอบ “มันเดย์ ควอลิฟาย” ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 ที่สนาม เซนต์แอนดรูว์ส 2000 อีกด้วย และปีนี้นอกจากจะมีนักกอล์ฟไทย ชาย-หญิง ลงแข่งขันแล้ว ยังมีนักกอล์ฟอาชีพจาก ดับเบิ้ลยูพีจีเอ และ เดอะ พีจีเอ ทัวร์ ออฟ ออสตราลาเซีย มาร่วมแข่งขันอีกด้วย
ทรัสต์กอล์ฟ ศูนย์ฝึกซ้อมและพัฒนาศักยภาพการตีกอล์ฟด้วยเทคโนโลยีระดับโลก จัดการแข่งขันกอล์ฟผสม ชาย-หญิง ทรัสต์กอล์ฟ ทัวร์ ภายใต้ชื่อรายการ ไทยแลนด์ มิกซ์ รายการแรกของประเทศไทย ที่เปิดโอกาสให้นักกอล์ฟ ชาย และหญิง ร่วมแข่งขันชิงเงินรางวัลในสนามเดียวกัน โดยในปี 2023 นับเป็นการจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อเป็นโอกาสให้นักกอล์ฟได้มีแมตช์แข่งขันในการพัฒนาฝีมือ จัดการแข่งขันโดย ทรัสต์กอล์ฟ ศูนย์ฝึกซ้อมและพัฒนาศักยภาพการตีกอล์ฟด้วยเทคโนโลยีระดับโลกที่ทันสมัยที่สุด ได้รับการสนับสนุนจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ททท. จังหวัดระยอง,ธนาคารกรุงเทพฯ, บริษัท บี.กริม, บริษัท บอนด์ โฮลดิ้งส์, เอไอเอสเพลย์, บริดจ์สโตน กอล์ฟ, ทรัสต์ ฟาร์มาซี, ทรัสต์ไลฟ์สตรีมมิ่ง, อาดิดาส กอล์ฟ, บาลานซ์ กอล์ฟ นิวทรีชั่น, เลอบอนด์, แอลเอ็มวี, อุดมพาณิชย์, สนาม เซนต์ แอนดรูว์ส 2000 และ Barcleona Valley
ทรัสต์กอล์ฟ นอกจากจะมีศูนย์ฝึกซ้อม และพัฒนาศักยภาพด้วยเทคโนโลยีระดับโลกที่ทันสมัยแล้ว ยังได้เดินหน้าสนับสนุนการแข่งขันระดับนานาชาติอย่างในศึก เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ และ แอลพีจีเอ ทัวร์ ในรายการ “ทรัสต์กอล์ฟ วีเมนส์ สก๊อตติช โอเพ่น” เป็นเวลา 5 ปีตั้งแต่ปี 2021-2025 ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากนักกอล์ฟชั้นนำระดับโลกมากมายเข้าร่วมการแข่งขัน และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง นอกจากนั้นแล้วยังเป็นเวทีให้นักกอล์ฟสาวไทยที่ผ่านการคัดเลือกจากการสนับสนุนจากทางทรัสต์กอล์ฟได้เข้าร่วมการแข่งขันอีกด้วยสำหรับในปี 2023 นอกเหนือจาก Thailand Mixed Hosted by TrustGolf ทั้ง 5 รายการ(เงินรางวัลรวม 17 ล้านบาท) ยังมี TrustGolf Asian Mixed ที่เป็น Tri-Sanction ระหว่าง Asian Tour, Ladies European Tour และ TrustGolf Tour (เงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) อีกทั้งยังมี TrustGolf Link Series จะเป็น Access Series for Ladies European Tour ก่อนที่จะเป็นรายการใหญ่อย่าง TrustGolf Women Scottish Open (เงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)