การแข่งขันกอล์ฟ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ครั้งที่ 17 เตรียมเปิดฉากขึ้นในสัปดาห์หน้านี้ (วันที่ 22-25 กุมภาพันธ์ 2567) ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา จ.ชลบุรี มีนักกอล์ฟเข้าร่วมแข่งขัน 72 คน ไม่มีการตัดตัว ชิงเงินรางวัลรวม 1.7 ล้านดอลลาร์ฯ (ราว 62 ล้านบาท) พร้อมรถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ รุ่น e:HEV RS มูลค่า 1,799,000 บาท สำหรับนักกอล์ฟคนแรกที่ทำโฮลอินวันได้ที่หลุม 16
ศึกครั้งนี้จะมีนักกอล์ฟไทยเข้าร่วมแข่งขันมากถึง 11 คน โดยมาจาก Priority List 2023 จำนวน 5 คน ได้แก่ เม-เอรียา จุฑานุกาล เมียว-ปาจรีย์ อนันต์นฤการ จูเนียร์-จัสมิน สุวัณณะปุระ พราว-ชเนตตี วรรณแสน และ แพตตี้-ปภังกร ธวัชธนกิจ และมาจากการรับเชิญ 6 คนได้แก่ โม-โมรียา จุฑานุกาล ซิม-ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ แหวน-พรอนงค์ เพชรล้ำ ว่าน-จารวี บุญจันทร์ และ 2 นักกอล์ฟสมัครเล่น แพงกี้-แอลล่า แกลิสกีย์ และ ฮัท-สุวิชยา วินิจฉัยธรรม แชมป์จากการแข่งขัน Honda LPGA Thailand 2024 National Qualifiers โดย แอลล่า และ สุวิชยา ต่างก็จะได้ลงเล่นในรายการนี้เป็นครั้งแรก
ขณะที่นักกอล์ฟต่างชาตินำโดย ลิเลีย วู มือหนึ่งของโลกชาวอเมริกันที่จะมาป้องกันแชมป์, ซีลีน บูติเยร์ นักกอล์ฟฝรั่งเศสสายเลือดไทยที่ปีที่แล้วคว้าแชมป์ 4 รายการ, จิน ยอง โค อดีตมือหนึ่งของโลก, อัลลิเซน คอร์ปุซ แชมป์ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น, และเอมี หยาง อดีตแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 3 สมัย
เม-เอรียา เคยได้แชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021 ซึ่งเป็นแชมป์แรกและแชมป์เดียวที่นักกอล์ฟไทยทำได้ในประวัติศาสตร์รายการนี้ที่เริ่มแข่งขันตั้งแต่ปี 2006 นอกจากนั้นก็มีตำแหน่ง “รองแชมป์” อีก 3 ครั้ง จากผลงานของ โม-โมรียา (2018), จีน-อาฒยา ฐิติกุล (2021) และ ซิม-ณัฐกฤตา (2023) โดยหากนับผลงานใน 7 ครั้งล่าสุดนั้น นักกอล์ฟสาวไทยจบ ท็อปเทนทุกครั้ง
นับตั้งแต่ เม-เอรียา กลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่ได้แชมป์แอลพีจีเอทัวร์ในปี 2016 ก็เหมือนกับเป็นส่วนสร้างแรงบันดาลใจให้นักกอล์ฟรุ่นใหม่ ช่วยปลุกกระแสกอล์ฟหญิงไทยในประเทศได้อย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่ความสำเร็จในเวทีโลก ซึ่งนับถึงเวลานี้ประเทศไทยมีแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ 22 รายการ จาก 7 นักกอล์ฟ ได้แก่ เม-เอรียา (12 แชมป์), โม-โมรียา (2 แชมป์), เมียว-ปาจรีย์ (2 แชมป์), จูเนียร์-จัสมิน (2 แชมป์), จีน-อาฒยา (2 แชมป์ ), แพตตี้-ปภังกร และ พราว-ชเนตตี โดยในช่วง 3 ปีล่าสุดนั้นมีแชมป์หน้าใหม่ (First-time winner) จากประเทศไทยเกิดขึ้นในแอลพีจีเอทัวร์ทุกปี นอกจากนั้นเมื่อปีที่แล้ว โปรสาวไทยก็ยังคว้าแชมป์กอล์ฟประเภททีมอินเตอร์เนชั่นแนล คราวน์ มาครองอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จเหล่านี้จะเกิดขึ้นไปไม่ได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากบรรดาพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน และที่สำคัญก็คือกำลังใจจากแฟนกอล์ฟที่ติดตามเชียร์ทั้งหน้าจอทีวีและที่ให้กำลังใจถึงสนาม
“เล่นแมตช์ไหนก็ไม่เหมือนฮอนด้า ที่จะมีแฟนๆ คนไทยมาให้กำลังใจและมาเชียร์นักกอล์ฟไทยมากๆ ค่ะ อยากให้แฟนๆ กอล์ฟมาเป็นกำลังใจให้เมและนักกอล์ฟไทยทุกคน พวกเราก็จะทำเต็มที่ค่ะ ขอกำลังใจจากทุกๆคนด้วยนะคะ” เอรียา อดีตนักกอล์ฟมือ 1 ของโลก กล่าว
ขณะที่ โม-โมรียา วัย 29 ปี บอกว่า “เราก็เหมือนโตมากับรายการ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ และเป็นรายการเดียวที่โมเล่นในประเทศไทยในแต่ละปี ทุกครั้งที่กลับมาก็เหมือนได้กลับบ้าน เราก็ได้รับการตอบรับที่อบอุ่นจากแฟนๆ เสมอ และก็ตื่นเต้นที่จะกลับมาเล่นอีกครั้ง ปีนี้ก็จะมีน้องๆ นักกอล์ฟไทยและเพื่อนๆ ที่เป็นนักกอล์ฟต่างชาติมา ก็อยากให้ทุกคนมาเจอกันที่สนามกอล์ฟ มาให้กำลังใจนักกอล์ฟไทยด้วยค่ะ”
ฮัท-สุวิชยา วัย 17 ปี นักกอล์ฟจากขอนแก่นดีกรีทีมชาติไทยที่ชนะในการแข่งขัน Honda LPGA Thailand 2024 National Qualifiers ยอมรับว่าคงตื่นเต้นมากในวันแข่ง แต่ก็จะพยายามเรียนรู้ให้มากที่สุด “วันแข่งคงตื่นเต้นมากเพราะผู้ชมเยอะมาก แต่จะทำสุดความสามารถ พร้อมเก็บเกี่ยวแรงบันดาลใจและประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด”
ขณะที่ แพงกี้-แอลล่า ลูกครึ่งไทย-แคนาดา วัย 17 ปี ที่เมื่อปีที่แล้วได้เล่นในรายการเมเจอร์มาแล้วถึง 3 รายการ รวมถึงการเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นผลงานที่สุดในรายการ The Chevron Championship ก็บอกว่า จะทำผลงานให้ที่สุดเพื่อแฟนกอล์ฟชาวไทย “อยากทำผลงานให้ดี ให้คนไทยทุกคนภูมิใจ แต่ก็ไม่กดดันตัวเองมากค่ะ”
แม้ในศึกครั้งนี้จะไม่มี จีน-อาฒยา ซึ่งยังอยู่ในระหว่างรักษาอาการบาดเจ็บที่ข้อมือ แต่เชื่อว่าความสนุกสนานพร้อมกับมนต์ขลังของฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ รวมถึงผลงานของสาวไทยบนเวทีโลกที่พัฒนาขึ้นตามลำดับ จะทำให้ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส เต็มไปด้วยแฟนกอล์ฟที่แห่มาให้กำลังใจสาวไทยอีกครั้งแน่นอน