ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 ดวลความเร็วสนาม 2 ของฤดูกาลเมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเปิดให้แฟนความเร็วเข้าชมการแข่งขันเป็นครั้งแรก ภายใต้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และจำกัดจำนวนผู้เข้าชม 6,000 คนต่อสนาม นอกจากนี้ยังถ่ายทอดสดไปยัง 3 ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว, เมียนมาร์ และ กัมพูชา เพื่อเป็นการขยายฐานแฟนความเร็วด้วย
ไฮไลต์รุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี (เอสบี1-เอสบี2) ของสนามอยู่ที่การลุ้นกลับเข้าสู่เส้นทางลุ้นแชมป์ของ ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร แชมป์ 3 สมัยติดต่อกันจาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ที่พลาดล้มในสนามแรกและไม่มีแต้มติดมือ โดยก่อนแข่งขันสนามที่ 2 “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ แชมป์สนามแรกจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม รั้งจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพ เหนือทีมเมทอย่าง “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อยู่ 5 คะแนน ตามด้วย ชัยวิชิต นิสกุล จาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ตามหลังจ่าฝูง 9 คะแนน
กริดสตาร์ทในเรซนี้มี ฐิติพงศ์ เป็นเจ้าของโพล หลังทุบสถิติของสนามช้างฯ ที่ตนเองทำไว้ในสนามที่ผ่านมา ขนาบข้างด้วย อภิวัฒน์ และ อนุภาพ ในกริดที่ 2 และ 3 ด้าน นครินทร์ ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 4 โดยแข่งขันกันทั้งสิ้น 12 รอบสนาม
ออกสตาร์ทเรซด้วยการขึ้นนำอย่างรวดเร็วของ ฐิติพงศ์ ทว่าหลังผ่านโค้ง 3 กลายเป็น อภิวัฒน์ ที่ขยับขึ้นเป็นผู้นำได้ ตามด้วย ฐิติพงศ์, นครินทร์ และ อนุภาพ รวมถึง ชัยวิชิต ในอันดับ 5
ในรอบที่ 5 ฐิติพงศ์ เปิดเกมบุกใส่ครั้งแรก ในโค้งที่ 3 แต่ อภิวัฒน์ ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้ ขณะที่ ชัยวิชิต ขยับแซง นครินทร์ ขึ้นมารั้งอันดับ 3 อย่างไรก็ดีในรอบถัดมาเป็น ฐิติพงศ์ ที่แซงขึ้นรั้งตำแหน่งจ่าฝูงได้สำเร็จ
ในรอบที่ 7 ฐิติพงศ์ กลับพลาดบานที่โค้ง 3 ส่งผลให้ อภิวัฒน์ กลับขึ้นมาเป็นผู้นำได้อีกครั้ง ขณะที่ นครินทร์ อาศัยความผิดพลาดของคู่หูคาวาซากิ เสียบแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ส่งผลให้สถานการณ์ลุ้นแชมป์ในสนามนี้เปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วง 5 รอบสุดท้าย
เกมเรซนี้ต้องตัดสินกันถึงโค้งสุดท้ายอีกครั้ง เมื่อ อภิวัฒน์ พยายามเสียบแซง ฐิติพงศ์ โดยหวังจะคว้าชัยชนะให้ได้อีกครั้ง ก่อนที่ทั้งคู่จะปะทะกันเล็กน้อย ส่งผลให้ นครินทร์ เสียบจากอันดับ 3 ขึ้นมาคว้าแชมป์ได้อย่างสุดมันส์ และเป็นชัยชนะครั้งแรกของอดีตนักบิดโมโตทรี เฉือน ฐิติพงศ์ อันดับ 2 เพียง 0.820 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ อภิวัฒน์ ตามหลังแชมป์ 1.227 วินาที ตามด้วย ชัยวิชิต และ อนุภาพในอันดับ 4 และ 5
ไฮไลต์อีกรุ่นอย่าง ซูเปอร์สต็อก 1,000 ซีซี เอสที1 นับเป็นเรซที่มีความพลิกผันอย่างมาก โดยทั้ง ออ ปิตะบุตร จาก คอร์ มอเตอร์สปอร์ต และ อภิเดช บุญศรี จาก คาวาซากิ พีทีที ไฉไล ไบค์ พลาดล้มออกจากการแข่งขันไป แถมช่วง 3 รอบสุดท้ายมีฝนตกลงมาปรอยๆ สร้างความลำบากให้นักบิดอย่างมาก ท้ายที่สุดแชมป์ตกเป็นของ ชานนท์ ชุ่มใจ จาก ยามาฮ่า ไดนาโวลต์ อาร์ซีที ที่เอาชนะ สิรภพ พูลศรี จาก ยามาฮ่า ดิออน แคปิตอล ยาโมโตสปอร์ต ทีม อันดับ 2 อยู่ 4.348 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ อัศวิน คงทนไพศาล จาก โกโก้ เรซซิ่ง ตามหลังแชมป์ 10.697 วินาที ด้าน รัชดา นาคเจริญศรี ยอดนักบิดสาวจาก ตาล เรซซิ่ง คอนเน็ค จบเรซในอันดับ 4 ตามหลังแชมป์ 23.065 วินาที
ด้านการแข่งขันในรุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เป็นการขับเคี่ยวอย่างเข้มข้นระหว่าง สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง จาก ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง คลับ เจ้าของโพล และ คณาทัต ใจมั่น คู่แข่งคนสำคัญจาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลิน กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี เคเอ็นบี เรซซิ่ง ทีม ในกริดที่ 2 เกมในเรซนี้ต้องไปตัดสินถึงโค้งสุดท้าย เมื่อ สิทธิศักดิ์ พยายามเสียบไลน์ในเพื่อแซง คณาทัต ทว่าฝ่ายหลังอาศัยจังหวะที่ยอดเยี่ยม บิดเข้าป้ายเป็นคันแรกคว้าแชมป์ในเรซนี้ไปครอง ด้วยการเฉือน สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง ที่หน้าเส้นชัยเพียง 0.057 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ นิติพงศ์ แสงสว่าง จาก ยามาฮ่า ทีเอส เรซซิ่ง ทีม ตามหลังแชมป์ 17.584 วินาที
ขณะเกมในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี วรพงศ์ มาลาหวล จาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ที่เร็วสุดๆ ในรอบควอลิฟายกลับต้องถอยไปออกสตาร์ทจากท้ายแถว เนื่องจากเปลี่ยนเครื่องยนต์ที่มีปัญหาก่อนแข่งขัน ทว่ายอดนักบิดจากเชียงใหม่โชว์ฟอร์มโหด ไล่แซงคู่แข่ง 15 คัน ผงาดคว้าแชมป์ไปครองด้วยเวลา 12 นาที 38.145 วินาที เหนือ จิรายุ สายยนต์ นักบิดหนุ่มจาก คาวาซากิ โรนิน เรซซิ่ง ทีม อันดับ 2 ถึง 3.506 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ รัฐพงศ์ บุญเลิศ จาก ยามาฮ่า เควายบี ไออาร์ซี ดี.ไอ.ดี. เอ็มเอ็น8 น้ำบาน โก๋ท่ามะกา ตามหลังแชมป์ 6.722 วินาที
ส่วนผลการแข่งขันในรุ่น สปอร์ต โปรดักชั่น 400 ซีซี (เอสพี. และ เอสพี จูเนียร์) นักบิดดาวรุ่งในคลาสจูเนียร์อย่าง ต่อศักดิ์ นวลสาย จาก เอ๋ เซอร์วิส ทีซี เอ็นจิ้น ปื๊ด สะพานแดง สร้างผลงานสุดร้อนแรง ออกสตาร์ทจากโพลนำม้วนเดียวจบคว้าแชมป์ไปครองด้วยเวลา 13 นาที 5.329 วินาที ทิ้งห่าง ธีรเทพ ต้านชัง ดาวรุ่งจาก ยามาฮ่า ไออาร์ซี ดี.ไอ.ดี. วายเอสเอส เอ็นจีเค อันดับ 2 ถึง 6.081 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ธนเทพ เทพแสน จาก อะไหล่ MN8 สปริงวาล์ว Promatt มานพ เซอร์วิส แปดริ้ว ตามหลังแชมป์ 6.182 วินาที
สำหรับการแข่งขันสนามถัดไปของ ศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 จะมีขึ้นในวันที่ 26-27 กันยายนนี้