“จุตินันท์” ประธานพารา ชื่นชมผลงานมหกรรมกีฬาคนพิการชิงแชมป์ประเทศไทยแจ้งเกิดนักกีฬาหน้าใหม่ “จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี” ประมุขพาราไทย ชื่นชมผลงานสร้างสถิติใหม่ และมีนักกีฬาหน้าใหม่เกิดขึ้นในมหกรรมการกีฬาคนพิการชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2563 พร้อมมุ่งเป้าพัฒนานักกีฬาคนพิการไทยอย่างต่อเนื่อง
ตามที่ สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ ได้จัดมหกรรมกีฬาคนพิการชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2563 ภายใต้การสนับสนุนของ คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย, การกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ และ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น โดยมีชิงชัย 8 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กรีฑา, ว่ายน้ำ, อีสปอร์ต, หมากรุกสากล, ยิงธนู, ลอนโบวล์ส, โบว์ลิ่ง และ วีลแชร์บาสเกตบอลในช่วงระหว่างวันที่ ระหว่างวันที่ 19-30 ส.ค.63
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 63 นาย จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เป็นประธานพิธีเปิดมหกรรมกีฬาคนพิการชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2563 และ การแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์ประเทศไทย อย่างเป็นทางการ โดยมี นาย ชูเกียรติ สิงห์สูง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ พร้อมผู้แทนจาก 3 สมาคมกีฬาคนพิการฯ ประกอบด้วย สมาคมกีฬาคนพิการทางสมองแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาคนพิการทางปัญญาแห่งประเทศไทย และ สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นเกียรติในพิธี ที่ ชาติชายฮอลล์ ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา โดย นาย จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี เปิดเผยว่า อย่างที่ทราบกันดีว่าการแข่งขันกีฬาคนพิการทั้งในระดับนานาชาติ และระดับประเทศ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ที่ผ่านมา การแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ถูกยกเลิกไป และ ไอวาสเกมส์ ซึ่งประเทศไทยจะเป็น “เจ้าภาพ” และจะมีนักกีฬาจาก 30 ชาติ เข้าร่วมชิงชัย ร่วมไปถึง พาราลิมปิกเกมส์ ถูกเลื่อนการแข่งขันไปส่งผลกระทบไม่มีรายการแข่งขัน หลังจากฝึกซ้อมกันมาอย่างต่อเนื่อง
โดย “มหกรรมกีฬาคนพิการชิงแชมป์ประเทศไทย ถือเป็นโอกาสที่ดีของนักกีฬาพาราของเราได้มีเวทีแข่งขัน หลังจากห่างหายมานาน และรู้สึกดีใจที่ในการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำคนพิการชิงแชมป์ประเทศไทย ที่ชิงชัยกันไปในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีนักกีฬาว่ายน้ำดาวรุ่งของเราทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทำลายสถิติถึง 13 รายการ สะท้อนให้ได้เห็นศักยภาพ และระเบียบวินัยของนักกีฬาของพวกเราเป็นอย่างดี เพราะถึงแม้การแข่งขันหลายระดับนานาชาติหลายรายการจะถูกเลื่อนการแข่งขันออกไปนักกีฬาของเรายังคงมุ่งมันฝึกซ้อมกันอย่างต่อเนื่อง” ประมุขพาราลิมปิกไทย กล่าวต่ออีกว่า ความมุ่งหวังของการแข่งขันกรีฑาคนพิการชิงแชมป์ประเทศไทยในครั้งนี้
แน่นอนว่ากีฬากรีฑา ซึ่งเป็นกีฬาความหวังของเราในทุกๆการแข่งขันในระดับนานาชาติ จะเกิดนักกีฬาหน้าใหม่ที่ทำผลงานได้ดี และทำลายสถิติการแข่งขันได้เช่นเดียวกับกีฬาว่ายน้ำ และเชื่อมั่นว่าจะมีการทำลายสถิติจากนักกีฬาหน้าใหม่ในการแข่งขันกรีฑาเกิดขึ้นมากมายเช่นเดียวกีฬาว่ายน้ำ ในส่วนของคณะกรรมการพาราลิมปิก ก็จะพยายามเดินหน้าสนับสนุนอย่างเต็มกำลังทั้งเรื่องงบประมาณ สถานที่ฝึกซ้อม”
สำหรับการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์ประเทศไทย ในครั้งนี้ จะมีการชิงชัยในระหว่างวันที่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-30 ส.ค.63 ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา โดยมีนักกรีฑาคนพิการจากทั่วประเทศเข้าร่วมชิงชัยทั้ง 218 คน