นครราชสีมา คว้าเหรียญทองตะกร้อลอดห่วง ทีมชาย (กติกาไทย) ด้วยการเอาชนะ กรุงเทพมหานคร 1750 – 1670 คะแนน สำหรับผู้เล่นทั้ง 2 ทีม มีดังนี้
นครราชสีมา จักรพันธ์ จรศรชัย, รัฐพงษ์ แสงสวัสดิ์, กัมพล ป้อมประสิทธิ์, ฉัตรชัย ประสิทธิ์, วโรธร จอนสร้อย, รณชัย รอดยิ้ม, ธงชัย ไชยมโน, กมล ประเสริฐ, วัฒนา ใจเย็น และ นพดล คงแถวทอง สำหรับกรุงเทพมหานคร มีนักกีฬาดังนี้ มานพ ฟุ่มเฟือย, ประณต ทองเปราะ, พิทยา พลอยเจริญ, เอกกวี รื่นพารา, โกมินทร์ เนาว์นนท์, โสภณวิชญ์ สังข์ศิลลา, เอกชัย มาสุข และ พิพัศน์ จรรยาวงษ์
ขณะที่ตะกร้อลอดห่วง ทีมหญิง (กติกาสากล) อุดรธานี มีผู้เล่นประกอบด้วย วราภรณ์ พิมพรัตน์, สุจิตรา นะวะสิมมา, วรินธร เศษรักษา, ภัทรวดี จันทหาร, เกศมณี พจนิตย์ และ สุทาสินี เบ้าชนะ คว้าเหรียญทองไปครองด้วยการเอาชนะ เพชรบูรณ์ ที่มี นิรารัตน์ นาสะอ้าน, มาลินี ศรีสวรรค์, รัตน์ตะวัน เขียวขอม, พรปวีณ์ ดวงดาว, ชมพูนุท ศรีงาม และ ชลธิชา โตนพรมรัมย์ ได้ด้วยคะแนน 750-640 คะแนน
ส่วนผลการแข่งขันคาราเต้โด ประเภทต่อสู้ (Kumite) รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 61 กก. หญิง เหรียญทองได้แก่ เพ็ญพิสุทธิ์ น้ำขาว (นครศรีธรรมราช) ที่เอาชนะ มณีวรรณ บุตรสุวรรณ (สุโขทัย), คาราเต้โด ประเภทต่อสู้ (Kumite) รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 67 กก. ชาย เหรียญทอง ได้แก่ รัชชานนท์ บุญโทน (อุทัยธานี) ชนะ พลภัทร พุ่มพวง (ระยอง), คาราเต้โด ประเภทต่อสู้ (Kumite) รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 84 กก. ชาย เหรียญทองได้แก่ ธีรวัต ผ่องใส (กรุงเทพมหานคร) ชนะ ทรงวุฒิ หมุนแทน (กระบี่) และ คาราเต้โด ประเภทต่อสู้ (Kumite) รุ่นน้ำหนักมากกว่า 84 กก. ชาย เหรียญทองได้แก่ ณัฐพล บุราณ (ขอนแก่น) ชนะ พิรุณพร ชุมภูทอง (กระบี่)
ผลการแข่งขันจักรยาน ประเภทลู่ ไทม์ไทรอัล ชาย (1 กม.) เหรียญทอง ได้แก่ วชิรวิทย์ แสนคำวงศ์ (เชียงราย) ทำเวลาได้ 01:08.89 นาที เหรียญเงิน ได้แก่ กนก ชุ่มบัวทอง (กรุงเทพมหานคร) เวลา 1:09.50 นาที เหรียญทองแดง ได้แก่ จตุรงค์ นิวันติ (พะเยา) ทำเวลาได้ 01:09.59 นาที, จักรยาน
ประเภทลู่ ไทล์ไทรอัล หญิง (500 ม.) เหรียญทองได้แก่ พรรณรายณ์ ราษี (ศรีสะเกษ) ทำเวลาได้ 38.71 วินาที เหรียญเงิน ได้แก่ เยาวเรศ จิตมาตย์ (ศรีสะเกษ) ทำเวลาได้ 39.12 วินาที เหรียญทองแดง ได้แก่ วาทินี ลือขจร (กรุงเทพมหานคร) ทำเวลาได้ 39.29 วินาที