“โตมร” สู้เต็มที่ก่อนคว้าอันดับที่ 4
ครอสคันทรี่เสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย
แต่โค่นนักปั่นอาเซียนลงราบคาบ
“โตมร” พูนศิริ ศิริมงคล สู้อย่างเต็มที่ แต่พ่ายความเก๋าของนักปั่นจากเกาหลีใต้ และคาซัคสถาน ได้อันดับที่ 4 ครอสคันทรี่ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย จากนักปั่นทั้งหมด 23 คน แต่ “พูนศิริ” สามารถเอาชนะนักปั่นจากญี่ปุ่น, อิหร่าน, มองโกเลีย และนักปั่นจากอาเซียนทุกชาติ เช่นเดียวกับ “ยลธนันท์ พลกล้า” ที่ได้ดับดับ 4 ในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง ในศึกเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 27 ที่เกาหลีใต้ ด้าน “เสธ.หมึก” เผยนักปั่นไทยชุดนี้เป็นสายเลือดใหม่ที่เตรียมเอาไว้สู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่กัมพูชา ยังต้องแก้ไขข้อบกพร่องอีกหลายจุด ส่วนรุ่นประชาชนชาย-หญิง นักปั่นไทย “กีรติ-ศุภักษร-วรินทร” เจอศึกหนัก ในวันที่ 22 ต.ค. นี้
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ส่งนักกีฬาเสือภูเขาทีมชาติไทยไปแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 19-23 ตุลาคม ที่เมืองซุนชอน ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นรายการใหญ่ระดับคอนติเนนตัล แชมเปี้ยนชิปส์ มีคะแนนสะสมสูงให้นักกีฬาเก็บคะแนนเพื่อคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ได้รับรายงานจาก “โค้ชปู” นาวาอากาศตรี สุภัทร ศรีไสว หัวหน้าผู้ฝึกสอนและผู้ควบคุมทีม ถึงการแข่งขันรายการครอสคันทรี่ รอบชิงชนะเลิศ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชาย-หญิง และรุ่นเยาวชน ชาย-หญิง กับ รวม 4 เหรียญทอง
พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับผลการแข่งขันในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย ระยะทาง 16.45 กม. “โตมร” นายพูนศิริ ศิริมงคล สู้อย่างเต็มที่แต่ยังแพ้ความเก๋าของนักปั่นจากเกาหลีใต้ และคาซัคสถาน ทำให้ พูนศิริ จบการแข่งขันอันดับที่ 4 จากนักปั่นทั้งหมด 23 คน ด้วยเวลา 1.15.00 ชั่วโมง โดยแชมป์เป็นของ เซือง ฮุน ชุน จากเกาหลีใต้ เวลา 1.08.48 ชั่วโมง, ที่ 2 เดนนิส เซอร์จีเยนโก จากคาซัคสถาน เวลา 1.09.23 ชั่วโมง, ที่ 3 เซง ซู เฮียว จากเกาหลีใต้ เวลา 1.12.25 ชั่วโมง ด้าน นายพลฉัตร นาคทองคำ นักปั่นไทยอีกคนได้ที่ 8 เวลา 1.17.23 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ทั้ง พูนศิริ ก็สามารถเอาชนะนักกีฬาจากญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, คาซัคสถาน, อิหร่าน, มองโกเลีย อีกหลาย ๆ คน รวมทั้งนักกีฬาจากอาเซียนที่เป็นคู่แข่งในกีฬาซีเกมส์ต่างก็แพ้ พูนศิริ ทั้งหมด
นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า ส่วนรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง ระยะทาง 12.45 กม. น.ส.ยลธนันท์ พลกล้า ก็ยังพ่ายความเก๋าของนักปั่นญี่ปุ่น ทำให้ ยลธนันท์ เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 4 ด้วยเวลา 1.20.41 ชั่วโมง โดยแชมป์เป็นของ อาการิ โคบายาชิ จากญี่ปุ่น เวลา 1.09.10 ชั่วโมง, ที่ 2 ซายู เบลล่า ซุกมา เดวี จากอินโดนีเซีย เวลา 1.13.15 ชั่วโมง และที่ 3 ซื่อ กวาน กวาน จากฮ่องกง เวลา 1.14.56 ชั่วโมง ขณะที่รุ่นเยาวชนหญิง ระยะทาง 8.45 กม. น.ส.อรวรรณ หมื่นทุม ได้อันดับที่ 14 เวลา 59.59 นาที ส่วนแชมป์เป็นของ อรินา สไปรินา จากคาซัคสถาน เวลา 50.57 นาที, ที่ 2 ไวโอเล็ตตา คาซาโควา จากคาซัคสถาน เวลา 51.27 นาที, ที่ 3 ฮิโตมิ นากาชิมา จากญี่ปุ่น เวลา 52.21 นาที ด้านรุ่นเยาวชนชาย ระยะทาง 12.45 กม. นายกมลฐชา อินทร์ทอง รถยางรั่วในรอบสุดท้าย ต้องเข็นรถเข้าเส้นชัยกว่า 2 กม. ทำให้จบการแข่งขันอันดับที่ 14 เวลา 1.05.23 ชั่วโมง โดยแชมป์เป็นของ โช ทาคาฮาชิ จากญี่ปุ่น เวลา 54.14 นาที, ที่ 2 เฟรี่ ยูโดโยโน่ จากอินโดนีเซีย เวลา 56.25 นาที, ที่ 3 มูฮัมหมัด ซยาวาล มาซลิน จากมาเลเซีย เวลา 56.57 นาที
พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า จากผลการแข่งขัน นักปั่นไทยในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ทั้งชายและหญิง ก็ทำผลงานได้น่าพอใจ โดยทั้ง พูนศิริ และ ยลธนันท์ เกือบจะได้เหรียญรางวัลกลับมา แต่เมื่อดูนักกีฬาที่เป็นแชมป์และรองแชมป์ส่วนใหญ่จะเป็นนักกีฬาคาซัคสถาน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่หัวแถวของเอเชีย ขณะที่นักปั่นไทยชุดนี้เป็นสายเลือดใหม่ที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ สร้างขึ้นเพื่อเป้าหมายในการสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่กัมพูชา รวมไปถึงรุ่นเยาวชนที่อยู่ระหว่างการพัฒนาทักษะและเสริมสร้างประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันรายการนี้แล้วก็ต้องมาประเมินผล และวางแผนว่าจะปรับแก้ไขข้อบกพร่องกันอย่างไร เพื่อเป้าหมายในการคว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่กัมพูชา
พลเอกเดชา กล่าวเสริมว่า สำหรับโปรแกรมการแข่งขันวันที่ 22 ตุลาคม มีชิง 2 เหรียญทอง จากรายการครอสคันทรี่ รุ่นประชาชนหญิง รอบชิงชนะเลิศ เริ่มเวลา 09.00 น. (ตรงกับเวลา 07.00 น. ของไทย ) นักกีฬาไทยมี 2 คน คือ “ไก่” ส.อ.หญิง ศุภักษร นันตะนะ และ “พลอย” น.ส.วรินทร เพ็ชรประพันธ์ และรุ่นประชาชนชาย รอบชิงชนะเลิศ เวลา 14.00 น. (ตรงกับเวลา 12.00 น.ของไทย) ทีมไทยส่ง “โดด” ส.อ.กีรติ สุขประสาท ลงชิงชัย ซึ่งคู่แข่งที่สำคัญก็น่าจะเป็นนักกีฬาจากคาซัคสถาน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ แต่ตนก็ได้กำชับนักปั่นไทยว่าขอให้สู้อย่างเต็มที่ ขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทยส่งแรงใจนักกีฬาไทยสู้ศึกในครั้งนี้ด้วย.