บ.ไมซ์ ร่วมกับ เทศบาลเมืองแสนสุข จัด “งานวิ่งบางแสน10” ภายใต้แนวคิด “The Inspiration to the World Experience”นักวิ่งกว่า 10,000 คน ตบเท้าประลองฝีมือระยะ10K ชงขอรับรองมาตรฐาน World Athletics Label Road Race เป็นงานลำดับ3เอเชีย รองจากอินเดียและจีน
นายรัฐ จิโรจน์วณิชชากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด และในฐานะผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน (Race Director) เปิดเผยว่า ตั้งใจที่จะสร้างสนามการแข่งขันวิ่งบางแสนให้เป็นที่รู้จักของนักวิ่งทั่วโลก จากการที่สนามบางแสน21 ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก World Athletics Silver Label Road Race รวมทั้งสนามบางแสน42 ที่ได้ยื่นขอมาตรฐาน World Athletics Bronze Label Road Race ไปแล้ว โดยตั้งใจที่จะผลักดันให้สนามของบางแสน10 ก้าวไปสู่สนามระดับโลก โดยปีนี้จะยื่นขอรับรองมาตรฐาน World Athletics Bronze Label Road Race เช่นกัน ซึ่งจะทำให้บางแสน และจังหวัดชลบุรีกลายเป็น 1 ใน 5 เมืองกีฬาของโลกที่มี Label มากถึง 3 ใบ
สำหรับการแข่งขันวิ่ง “บางแสน10”ในปีนี้มีนักวิ่งอีลิทฝีเท้าระดับโลกเข้าร่วมแข่งขัน อาทิ เอมมานูเอล บอร์ จากประเทศเคนย่า ที่เจ้าของสถิติ 27.41 นาที ในระยะ10K และนอกจากนี้ยังมี ยาสิน เฮยาโต้ ประเทศเอธิโอเปีย ด้วยสถิติ 27.48 นาที มาร่วมชิงชัยในครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีระยะ5 กิโลเมตร ที่มีการแข่งขันในรุ่นเด็กและเยาวชน ในรุ่นอายุ10ปี 12ปี และ15ปี ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้วิ่งในระยะที่เหมาะสมกับอายุ เพื่อฝึกฝนและก้าวไปสู่การเป็นนักวิ่งอาชีพในอนาคต รวมถึงการแข่งขันในรุ่นอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพและสร้างสังคมที่แข็งแรงให้กับผู้สูงวัย ทั้งหมดนี้จะเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างประสบการณ์ระดับเวิร์ลคลาสให้กับนักวิ่งทุกคน
นายรัฐ กล่าวว่า ส่วนการยื่นขอมาตรฐาน World Athletics Bronze Label Road Raceได้ทำตามข้อกำหนด เช่นการปิดการจราจร 100% ตลอดการแข่งขัน ,การทำประกันอุบัติเหตุวงเงินรักษาพยาบาล 100,000 บาทให้กับนักวิ่งทุกคน รวมถึงมีการสุ่มตรวจการใช้สารกระตุ้น (Anti-Doping) และที่สำคัญคือมีระบบการแพทย์ฉุกเฉินที่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้ยังได้นำนวัตกรรมด้าน AI เทคโนโลยี FaceX ทั้ง Face ID ระบบจดจำใบหน้า มาใช้เพื่อช่วยในการตรวจสอบยืนยันตัวบุคคลของนักวิ่ง ด้วยการมารับเสื้อและเบอร์วิ่งด้วยตนเองเท่านั้น เพื่อใช้ในการบันทึกและยืนยันข้อมูลสำคัญทางการแพทย์ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินและป้องกันการเปลี่ยนตัวนักวิ่งตามกฎของ World Athletics รวมถึงระบบ Face Search ที่จะมาช่วยในการตัดสินนักวิ่งที่ได้รับรางวัล และการค้นหารูปถ่าย เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้นักวิ่งสามารถหารูปของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นงานวิ่งที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด
นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข กล่าวว่า เทศบาลเมืองแสนสุขเล็งเห็นถึงความสำคัญของนโยบายของรัฐบาลในการให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา เพื่อตอบสนองนโยบายการเป็นเมืองสุขภาพดี ของบางแสน และเป็นการตอกย้ำการเป็นเมืองกีฬาของจังหวัดชลบุรีอย่างแท้จริง การที่งานบางแสน มาราธอน ซีรี่ส์ ทั้ง 3 งาน ได้รับมาตรฐาน World Athletics Road Race Label ถึง 3 ใบ จะทำให้ จ.ชลบุรีกลายเป็นเมืองกีฬา1 ใน 5 เมืองของโลกเทียบเท่าแมดริด บาเลนเซีย ปราก ลิสบอน ซึ่งล้วนเป็นเมืองใหญ่ของโลกทั้งสิ้น
นายณรงค์ชัย กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมในการปรับปรุงภูมิทัศน์และพัฒนาสถานที่ให้มีความพร้อมในทุกส่วน เพื่อเตรียมต้อนรับนักวิ่งที่มาจากทั่วโลก และทำให้งานนี้ประสบความสำเร็จในฐานะเจ้าบ้าน ที่จะสร้างความประทับใจให้กับนักวิ่งให้สมกับที่ชลบุรีเป็นเมืองกีฬา ที่จะทำให้นักวิ่งอยากจะกลับมาวิ่งที่บางแสน ซึ่งจะเป็นแนวทางสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ และสังคมให้กับประเทศได้เป็นอย่างดี
นายแพทย์ สิรวิชญ์ เดชธรรม แพทย์ผู้ช่วยบริหาร โรงพยาบาลสมิติเวช ชลบุรี ในฐานะผู้อำนวยการด้านการแพทย์ กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมตามการขอรับรองมาตรฐาน World Athletics Bronze Label Road Race ซึ่งจะดูแลทั้งในเรื่องของภาวการณ์เจ็บป่วย และการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการวิ่ง ซึ่งระยะ 10 กิโลเมตร และ 5 กิโลเมตร เป็นระยะที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บได้เช่นกัน เนื่องจากเป็นระยะที่เน้นการแข่งขัน จึงมักจะวิ่งกันด้วยความเร็วสูง บางครั้งอาจเกินลิมิตของตนเอง ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ ดังนั้นทางการแพทย์ต้องเตรียมความพร้อมในการเข้าช่วยเหลือ
โดยจะมีจุดบริการทางการแพทย์ทุกๆ 2 กิโลเมตร และได้เพิ่มกิโลเมตรที่ 9 และ 9.5 เข้ามาด้วย ซึ่งเป็นจุดที่ทีมแพทย์คาดว่าเป็นจุดสุ่มเสี่ยงหรือจุดเพลี่ยงพล้ำของนักวิ่ง นอกจากบุคลากรทางการแพทย์ยังได้รับการสนับสนุนจากโรงพยาบาลพันธมิตร อาสาสมัครทางการแพทย์ รวมถึงอาสากู้ภัย มีการเตรียมรถพยาบาลฉุกเฉินชั้นสูง มีเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า (AED Philips) ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือนักวิ่ง ดังนั้นสบายใจได้ว่า หากเกิดเหตุการณ์ใดๆทางทีมแพทย์และทีมอาสาสมัครทุกฝ่าย มีความพร้อมที่จะดูแลนักวิ่งอย่างเต็มที่และเป็นไปตามมาตรฐานจากทาง World Athletics อย่างแน่นอน