“เสธ.ยอด” พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย รองประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ โต้สื่อต่างประเทศที่เสนอข่าวกล่าวหา ไม่เป็นความจริง ยืนยันการเลือกตั้งสหพันธ์ฯ ที่กรุงเทพฯ ปี 2017 ทุกอย่างโปร่งใส ทำตามระเบียบถูกต้อง ตรวจสอบได้ ส่วนกรณีที่ตนถูกพาดพิงว่าซื้อเสียง ไม่เป็นความจริงเช่นกัน และไม่มีความจำเป็นใด ๆ เพราะตำแหน่งรองประธานสหพันธ์ฯ ตนไม่มีคู่แข่ง ระบุจุดแตกหักกับ ทามาส อาจาน อดีตประธานสหพันธ์ฯ เพราะตนไปเรียกร้องให้มีองค์กรอิสระตรวจสารต้องห้าม เลยทำให้อดีตประธานสูญเสียอำนาจที่เคยมี
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 ที่ห้องเธียเตอร์ ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา (อาคาร 25 ชั้น) การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) “เสธ.ยอด” พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย รองประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ คนที่ 1 แถลงข้อเท็จจริง กรณีถูกพาดพิงจากสื่อต่างประเทศ เว็บไซต์ www.insidethegames.biz ในการเลือกตั้งสหพันธ์ฯ ที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2017
พลตรีอินทรัตน์ กล่าวว่า จากการที่เว็บไซต์ต่างประเทศ เสนอข่าว โดยเป็นการรายงานผลการสอบสวนจากองค์กรอิสระของสหพันธ์ฯ นำโดย ริชาร์ด แม็กลาเรน ถึงการทำงานของสหพันธ์ฯ ในยุคที่มี ทามาส อาจาน เป็นประธานสหพันธ์ฯ โดยมีประเด็นเรื่องซื้อเสียงในตำแหน่งประธานฯ และยังมีการพาดพิงมาถึงตนด้วยนั้น ขอยืนยันว่า การเลือกตั้งสหพันธ์ฯ ที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2017 ทุกอย่างโปร่งใส ทำตามระเบียบถูกต้อง ตรวจสอบได้
ในการเลือกตั้งครั้งนั้น มีคณะกรรมการกลางจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาควบคุมการจัดการเลือกตั้งและนับคะแนน อีกทั้งมีประธานสหพันธ์กีฬาโลกหลายแห่ง ก็มาเป็นสักขีพยานด้วย หากมีความผิดปกติใด ๆ คณะกรรมการกลางจะต้องพบอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน การอำนวยความสะดวกเรื่องบัตรโดยสารของผู้เข้าร่วมประชุมเป็นหน้าที่ของสหพันธ์ฯ ประเทศละ 1 คน และเจ้าภาพรับผิดชอบบัตรโดยสารของกรรมการบริหารและเจ้าหน้าที่ของสหพันธ์และที่พักของผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด ตลอดจนการอำนวยความสะดวกให้ผู้ร่วมประชุมเป็นความรับผิดชอบของเจ้าภาพ และจากข้อกล่าวหาว่า มีการอำนวยความสะดวกให้คณะกรรมการที่ลงคะแนนให้ โดยจัดโรงแรมอีกแห่งไว้ให้ ข้อเท็จจริง โรงแรมหลักที่จัดประชุม โรงแรมแกรนด์ โฟร์วิงส์ ไม่สามารถจัดอาหารมุสลิมให้ผู้ที่มาร่วมประชุมในช่วงเวลา 03.00-05.00 น. ได้ เพราะผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามส่วนหนึ่ง ต้องรับประทานอาหารในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะช่วงการประชุม อยู่ในช่วงการถือศีลอด รอมฎอน จึงจำเป็นต้องหาอีกโรงแรม คือ โรงแรมอัลมีรอซ ที่สามารถดำเนินการในเรื่องดังกล่าวให้ได้
การกล่าวหาว่า ใช้เงินซื้อเสียงถือเป็นการดูถูกความเป็นปัจเจกชนอย่างรุนแรง ซึ่งผู้ที่ถูกอ้างถึงว่ารับเงินจากตนนั้น ได้ทราบข่าว ก็อีเมล์มาที่สมาคมยกน้ำหนักฯถึงตน แล้ว เพื่อปฏิเสธข่าวดังกล่าว และยืนยันความบริสุทธิ์ของตน ที่สำคัญ ตำแหน่งของตนไม่มีผู้สมัครรายอื่นลงชิงตำแหน่งด้วย จึงไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องกระทำการใด ๆ เพื่อให้ได้ตำแหน่งมา หลังจากนี้ จะได้ปรึกษากับทีมกฎหมาย และบุคคลอื่นที่ถูกพาดพิงในกรณีเดียวกันถึงทิศทางที่จะดำเนินการต่อไป
“ข่าวดังกล่าวที่สื่อต่างประเทศเสนอไป บิดเบือนจากความจริงอย่างมาก ทำให้ผมไม่สบายใจ และต้องการให้ความจริงประจักษ์ โดยเรื่องนี้ผ่านมากว่า 3 ปีแล้ว แต่มีการขุดขึ้นมา และอ้างแหล่งข่าวที่เป็นฝ่ายแพ้การเลือกตั้ง จึงเป็นที่สังเกตุว่า อาจจะเป็นการนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในปีหน้าหรือไม่ ผมจะดำเนินการกอบกู้ชื่อเสียงกลับคืนมา โดยจะหารือกับเพื่อนชาติอื่นที่ถูกกล่าวหาเช่นกันว่าจะมีการฟ้องร้องหรือไม่ แต่ส่วนตัวผมต้องการสร้างความสามัคคีให้กับวงการยกน้ำหนักโลก และกอบกู้ชื่อเสียงกลับคืนมาดำเนินการอย่างเข้มแข็งให้ได้” พลตรีอินทรัตน์ กล่าว
รองประธานสหพันธ์ฯ กล่าวต่อว่า สำหรับสาเหตุที่ตนคิดว่าเป็นจุดแตกหักกับ ทามาส อาจาน อดีตประธานสหพันธ์ฯ เพราะว่าเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2018 ตน เรียกร้องให้มีองค์กรอิสระในการตรวจสารกระตุ้นในนักกีฬา หรือ ITA ซึ่งเป็นการดึงอำนาจจาก อาจาน
“ผมไม่ได้ทะเลาะกับใคร แต่มีคนมาทะเลาะกับผม ผมพยายามที่จะทำให้วงการยกน้ำหนักเดินหน้าไปได้ ส่วนเรื่องโทษแบนของนักยกนำ้หนักไทยนั้น ตอนนี้ได้ยื่นอุทธรณ์กว่าพันหน้าอยู่ในศาลกีฬาโลกแล้ว และมั่นใจว่าจะได้ลดโทษแบน แต่ยังตอบไม่ได้ว่าจะทันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หรือไม่” พลตรีอินทรัตน์ กล่าวในตอนท้าย