วันที่ 22 เมษายน 2563 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุม บริษัท ไทยลีก จำกัด สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ บริษัท ไทยลีก จำกัด จัดประชุม “คณะกรรมการศึกษาแนวทางการรวมลีกฟุตบอลลีกอาชีพไทยลีก 3 และ ไทยลีก 4” เพื่อหารือถึงแนวทางการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ ที่มีผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)
การประชุมในครั้งนี้ นำโดย อรรณพ สิงห์โตทอง อุปนายกสมาคมฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางและการรวมลีกฟุตบอลอาชีพไทยลีก 3 และไทยลีก 4 พร้อมด้วย คุณกรวีร์ ปริศนานันทกุล รองประธานคณะกรรมการ คุณ เบนจามิน ตัน ที่ปรึกษาและผู้อำนวยการคลับ ไลเซนซิง สมาคมฯ และตัวแทนสโมสรสมาชิก ในระดับ ไทยลีก 3 และ ไทยลีก 4 ที่เข้าร่วมประชุมทางออนไลน์
หลังการประชุม อรรณพ สิงห์โตทอง อุปนายกสมาคมฯ กล่าวว่า “วันนี้ได้เชิญตัวแทนสโมสรสมาชิก แต่ละภาคร่วมหาข้อสรุป และข้อเสนอแนะ ซึ่งกันและกัน ว่าจะปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมอะไรในการพัฒนาฟุตบอลในระดับไทยลีก 3 ให้ดีขึ้น”
“ตัวแทนของแต่ละภาคได้คุยกัน ซึ่งเราจะนำข้อมูลในวันนี้ ทั้งหมด มาสรุปให้รับทราบอีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อแจ้งว่าแต่ละฝ่ายว่าจะทำอย่างไรบ้าง เพื่อให้ฟุตบอลไทยพัฒนาไปข้างหน้า”
“การพูดคุยวันนี้ถือว่าราบรื่นดี ทุกคนมีเป้าหมายในการพัฒนาเพื่อฟุตบอลไทย มันไม่มีอะไรหนักเกินไปถ้าลงมือทำ อย่างแรก ก็คือเริ่มให้เร็ว มีข้อสรุปที่ชัดเจนเหมือนไทยลีก 1-2”
“ผมยินดีที่จะร่วมกันพัฒนา ส่วนข้อสรุปหลักๆ หลังจากนี้อีก 1 สัปดาห์ ทางสมาคมฯ ก็จะชี้แจงให้สโมสรสมาชิกทราบว่าข้อมูลในวันนี้เป็นอย่างไร พอใจ และตรงตามเจตนารมณ์หรือไม่ คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ด้วยดี”
“แนวทางที่สมาคมฯ วางไว้ ก็คือการแบ่ง 6 โซน โดยในช่วงเริ่มต้นอาจจะมีโซนละ 12-14 ทีม และในฤดูกาลต่อๆ ไปอาจจะมีการเพิ่มจำนวนทีม เพื่อให้แต่ละโซนมีจำนวนครบ 16 ทีม”
“อีกส่วนที่มีการพูดคุยคือเรื่องของมาตรฐานของสนามแข่งขันสโมสรไทยลีก 4 ที่แต่ละทีมก็กังวลเรื่องมาตรฐาน เช่น สภาพสนามหญ้า ห้องแต่งตัว แต่เรายังมีเวลาอีก 5 เดือน แต่ละทีมในไทยลีก 4 ก็ต้องพัฒนาขึ้นมา ให้อยู่ในมาตรฐานที่เหมาะสม เป็นต้น”