บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เป็น 2 ทีมที่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ในศึกอีสปอร์ต Pro Evolution Soccer ที่เล่นโดย AI รายการ Thai League PES LOCKDOWN Tournament 2020 หลังดวลจุดโทษชนะคู่แข่ง ในนัดประเดิมสนาม
รายการนี้ จัดขึ้นเพื่อให้แฟนบอลได้หายคิดถึงเกมลูกหนัง จากช่วงที่ฟุตบอลลีกเว้นวรรค และต้องเก็บตัวอยู่บ้าน ในช่วงโควิด-19 ซึ่งเป็นการนำ 16 ทีมจาก โตโยต้า ไทยลีก มาประกบคู่เตะ แบบน็อคเอาท์ในเกม PES 2020 หรือ Winning Eleven อันโด่งดัง
โดยกติกา จะมีการแข่งขันครึ่งละ 10 นาที หากมีการเสมอกัน จะต้องต่อเวลาพิเศษ และหากเสมอกันอีก จะมีการดวลจุดโทษ เพื่อหาผู้ชนะ ซึ่งในช่วงต่อเวลาพิเศษ สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นเพิ่มได้อีก 1 คน
และที่พิเศษไปกว่านั้น ทัวร์นาเม้นต์อีสปอร์ตกระชับมิตรรายการ Thai League PES LOCKDOWN Tournament 2020 ยังได้นักพากย์ และสื่อมวลชนชั้นนำของเมืองไทย นำทีมโดย “บี แหลมสิงห์” สยามพงษ์ ผลมาก, “บับเบิ้ล” ยิ่งรัก รักษ์สุวรรณ, “มด สุรเดช” สุรเดช มั่นวิมล, “บิ๊กแชมป์” ฐิติพงศ์ อ่อนไสว, ”กล้า” กล้าณรงค์ มาโชค, “เบลล์ ขอบสนาม” อรรถพล ไข่ทอง ร่วมด้วยมีเดียจากสโมสร “เบนท์ ชลบุรี เอฟซี” ณัฐวุฒิ ข่อยแก้ว และ “แตงโม วัดโบสถ์ ซิตี้” สิทธิชัย เดชะศิริ อาสามาร่วมบรรยายเกมการแข่งขัน สร้างความสุขให้แฟนบอล โดยไม่ขอรับค่าเหนื่อยอีกด้วย
สำหรับผลการแข่งขันวันแรก ของศึก Thai League PES LOCKDOWN Tournament 2020 มีดังนี้
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 1-1 สุพรรณบุรี เอฟซี (บีจี ปทุมฯ ชนะจุดโทษ 4-3)
สำหรับการแข่งขันคู่นี้นั้น เกิดประตูขึ้นตั้งแต่นาทีที่ 4 จากจังหวะสวนกลับเร็วที่ สุพรรณบุรี ตัดบอลได้จากฝั่งขวา ก่อนเป็น กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ ที่จ่ายบอลสุดสวยให้ เอลิอันโดร ยิงเข้าไป
แต่ก่อนจบครึ่งแรก 7 นาที ทาง บีจีพียู ก็ตามตีเสมอได้สำเร็จ จากการได้บอลทางกราบซ้ายของ จักรกฤษณ์ ลาภตระกูล ก่อนจะไหลบอลมาให้ บาร์รอส ทาร์เดลี่ ปั่นเข้าไปอย่างสวยงาม
ครึ่งหลัง ทางสุพรรณบุรีมีโอกาสจะแจ้ง จาลูกยิงนอกกรอบของ ซุลฟาห์มี่ อารีฟิน ที่หลุดกรอบไปนิดเดียว ส่วนทางบีจี ก็ได้หวาดเสียวจากฟรีคิกของสุมัญญา ปุริสาย ที่ปั่นไปโดนทาง สหวิช ขำเปี่ยม ปัดออกไป ทำให้จบ 90 นาที เสมอกันไป 1-1
ส่วนช่วงต่อเวลานั้น สุพรรณบุรี มีโอกาสที่จะเป็นฝ่ายเก็ยชัยได้สำเร็จในนาทีที่ 115 ที่เอลิอันโดร ได้ยิงเน้นๆ บริเวณจุดโทษ แต่บอลก็หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้จบช่วงต่อเวลา ทั้ง 2 ฝ่ายก็เสมอกัน 1-1 ทำให้ต้องไปดวลจุดโทษ
ซึ่งผลการดวลจุดโทษมีดังนี้
บีจี : จักรกฤษณ์ (เข้า), สุรชาติ (เข้า), บาร์รอส ทาร์เดลลี่ (ไม่เข้า), สหรัฐ (ไม่เข้า), โคจิมะ (เข้า), สุมัญญา (เข้า)
สุพรรณบุรี : เฟลิเป้ (เข้า), กษิดิ์เดช (ไม่เข้า), เอลิอันโดร (ไม่เข้า), ชุติพนธ์ (เข้า), ประสิทธิ์ (เข้า), วัศพล (ไม่เข้า)
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 0-0 โปลิศ เทโร เอฟซี (ราชบุรี มิตรผล ชนะจุดโทษ 3-1)
สำหรับคู่นี้ แม้ฝ่ายราชบุรี จะครองบอลได้มากกว่า แต่ทั้งสองทีมนั้นไม่มีโอกาสเข้าทำกันเลย ส่วนครึ่งหลัง ราชบุรี มีโอกาสเน้นๆ 2 ครั้ง จากยานนิค โบลี่ แต่ก็ไม่สามารถยิงผ่านมือ ประสิทธิ์ ผดุงโชค ได้ ทำให้ 90 นาทีของคู่นี้ จบไปแบบไร้สกอร์
ส่วนช่วงต่อเวลา ราชบุรี ก็ได้หวาดเสียวเล็กน้อย จากโอกาสของ ฆาเบียร์ ปาตินโญ่ แต่ก็ไม่เป็นประตู ทำให้คู่นี้จบ 120 นาที แบบไร้สกอร์ และต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ
ซึ่งผลการดวลจุดโทษมีดังนี้
ราชบุรี : ยศศักดิ์(ไม่เข้า), ปาตินโญ่(เข้า), ลองจิล(เข้า), นาซารี(ไม่เข้า), คาราบูเอ้(เข้า)
เทโร : นัฐวุฒิ(ไม่เข้า), ปฐมพล(เข้า), ฮูล่า(ไม่เข้า), จาตุรงค์(ไม่เข้า)
และจากผลการแข่งขันในนัดนี้ ทำให้ทั้งสองทีม ต้องโคจรมาเจอกันเองในรอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งจะแข่งในวันที่ 31 มีนาคม เวลา 12.30 น.
ส่วนวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม จะมีการแข่งขันในรอบแรก 3 คู่ ได้แก่
เวลา 12.30 น. – สุโขทัย เอฟซี vs พีที ประจวบ เอฟซี
เวลา 18.30 น. – เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด vs ระยอง เอฟซี
เวลา 19.00 น. – สมุทรปราการ ซิตี้ vs ชลบุรี เอฟซี