สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดงานแถลงข่าวความพร้อมจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 ที่จะมีขึ้นที่สนาม ช้าง อารีนา จังหวัดบุรีรัมย์ ในวันที่ 5 และ 8 มิถุนายน 2562
การแถลงข่าวครั้งนี้ นำโดย พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย คุณศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ประธานฝ่ายจัดการแข่งขัน และอุปนายกฝ่ายจัดการแข่งขัน, คุณลัขณานันท์ ลักษมีธนานันต์ อุปนายกบริหารงาน ฝ่ายอำนวยการบัญชีและการเงิน, คุณกรวีร์ ปริศนานันทกุล เลขาธิการฯ และ คุณเบนจามิน ตัน ที่ปรึกษาและผู้อำนวยการฝ่ายออกใบอนุญาตสโมสร สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
คุณโรจนสิทธิ์ มีนิจสิน รองผู้อำนวยการโครงการไทยเบฟ ไทยทาเล้นท์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง,คุณวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอร์ริกซ์ สปอร์ต จำกัด, คุณวัชร วัชรพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ สถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี
คุณอิสระ วงศ์รุ่ง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าบุคคล,คุณธารา พฤกษ์ชะอุ่ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด,คุณณัฏฐมณี เลขวณิชกุล รองผู้อำนวยการด้านแบรนด์ และการสื่อสาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน),คุณจักรพล เบสุวรรณ ตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย)
พร้อมด้วย ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอน และ 3 นักเตะทีมชาติไทย ธีรศิลป์ แดงดา, สุมัญญา ปุริสาย และ ฉัตรชัย บุตรพรม
ภายในงานแถลงข่าว พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 จะจัดขึ้นที่สนาม ช้าง อารีน่า เนื่องจากสนามราชมังคลากีฬาสถาน มีกำหนดการปรับปรุง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับทัวร์นาเมนต์สำคัญในช่วงต้นปีหน้า อย่าง ศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ก็ถือเป็นโอกาสอันดี ที่จะได้นำเกมฟุตบอลระดับชาติกระจายไปในภูมิภาค เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กและเยาวชน เกิดการกระตุ้นและการพัฒนาฟุตบอลในทั่วทุกภูมิภาค”
“อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือนโยบายของสมาคมฯ จะเชิญทีมที่มีอันดับ ฟีฟ่า แรงกิ้ง สูงกว่าเข้าร่วมแข่งขัน เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งในครั้งนี้ก็มีสองทีมในทวีปเอเชีย อย่าง อินเดีย และ เวียดนาม เข้าร่วมแข่งขัน พร้อมด้วยทีมจากโซนคอนคาเคฟ อย่าง กือราเซา ซึ่งทุกแมตช์ที่จะทำการแข่งขันก็ได้รับการรับรองจาก ฟีฟ่า ในการเป็นแมตช์ระดับ International ‘A’ Match”
“สุดท้ายทางเราต้องขอบคุณ ทางผู้สนับสนุนทุกท่านที่ช่วยให้การแข่งขันรายการนี้เกิดขึ้นมา และจัดได้อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง และทุกนัดที่แข่งขันจะมีการถ่ายทอดสดทางช่อง ไทยรัฐ ทีวี ให้แฟนบอลได้ติดตาม ฝากแฟนบอลทุกท่าน ติดตามและส่งกำลังใจให้กับทีมชาติไทย ในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งนี้ ด้วยครับ ขอบคุณครับ”
โดยผลการจับสลาก ประกบคู่การแข่งขันมีดังนี้
วันที่ 5 มิถุนายน 2562
อินเดีย พบ กือราเซา ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 15.30 น.
ไทย พบ เวียดนาม ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 19.45 น.
วันที่ 8 มิถุนายน 2562
คู่ชิงชนะเลิศลำดับที่ 3 ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 15.30 น.
คู่ชิงชนะเลิศลำดับที่ 1 ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 19.45 น.
อนึ่ง การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 มีสี่ชาติ เข้าร่วมแข่งขันประกอบไปด้วย ไทย (114), อินเดีย (101), เวียดนาม (98) และ กือราเซา (82) โดยทุกแมตช์ที่ทำการแข่งขันได้รับการรับรองจาก ฟีฟ่า เป็นแมตช์ระดับ International ‘A’ Match” และทุกนัดจะมีการถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี HD ช่อง 32
สำหรับ ผู้ถือบัตร CHANGSUEK MEMBER สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ ตั้งแต่วันที่ 10-15 พฤษภาคม 2562 ทั้งระบบออนไลน์ และหน้าเคาน์เตอร์ ไทยทิคเก็ต เมเจอร์ พร้อมส่วนลด 5% ส่วนบุคคลทั่วไป เปิดจำหน่ายบัตรในวันที่ 16 พฤษภาคม เป็นต้นไป โดยสามารถใช้ส่วนลดนี้กับตั๋ว ราคาแพคเกจได้เช่นกัน
นอกจากนี้ยังมี PROMOTION สำหรับหน้างาน ที่สนาม ช้างอารีน่า แฟนบอลสมัครบัตร ช้างศึกหน้าสนาม ในราคา 250 บาท รับฟรี หนังสือ THAILEAGUE GUIDEBOOK 2019 และรับส่วนลด 10% ในการซื้อสินค้าช้างศึกหน้าสนาม นอกจากนี้ยังได้สิทธิ์ แลกซื้อ POSTER ในราคา 100 บาท จากราคา 150 บาท จำนวนจำกัด เพียง 2,000 ชิ้น (หากราคา มีการเปลี่ยนแปลง จะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง)