‘นิชิโนะ’ หวั่นความฟิต ‘ช้างศึก’ หลังต้องเตะถี่ยิบ
ความเคลื่อนไหวทัพ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่มีโปรแกรมลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มจี อีก 3 เกมที่เหลือ ซึ่งจะต้องไปเล่นสนามกลางที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) โดยมีโปรแกรมนัดแรก วันที่ 3 มิถุนายน พบ อินโดนีเซีย, วันที่ 7 มิถุนายน พบ ยูเออี และวันที่ 15 มิถุนายน พบ มาเลเซีย
โดยล่าสุดฟุตบอล “โตโยต้า ไทยลีก 2020/21” เพิ่งจบฤดูกาลลงไป โดยยังเหลือโปรแกรม “ช้าง เอฟเอ คัพ” ที่จะลงเล่นรอบก่อนรองชนะเลิศ ในวันที่ 3 เมษายน และไปจบในนัดชิงชนะเลิศ วันที่ 11 เมษายนนี้ ทำให้อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย มีเวลาราวๆ 2 เดือนเศษ ในการจะเตรียมตัวก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก
ทางด้านกุนซือแดนอาทิตย์อุทัย กล่าวว่า ตอนนี้เป็นเรื่องยากที่จะเรียกนักเตะมาเก็บตัวหลังจากจบฤดูกาลทันที เพราะว่านักเตะไทยนั้นกรำศึกมาอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องของสภาพร่างกายของนักเตะ ดังนั้นอันดับแรกคงจะต้องปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้กับนักเตะก่อน
“บางสโมสรทีมนักเตะเยอะ สามารถหมุนเวียนกันได้ แต่หลายทีมทำไม่ได้ ต้องใช้งานนักเตะต่อเนื่อง ทำให้นักเตะค่อยข้างเหน็ดเหนื่อย” นิชิโนะ กล่าว
เฮดโค้ชช้างศึก กล่าวต่อว่า การต้องลงแข่งขัน 3 นัดต่อเนื่องในช่วงเวลาเพียง 12 วันนั้น กลยุทธ์สำคัญคือการทำงานในทีม ไม่เพียงแต่ 11 คนแรก แต่ทุกคนจะต้องรวมใจกัน อย่าให้เกิดปัญหาภายใน ทุกคนต้องพร้อมสู้ไปด้วยกัน ถ้าไม่อดทนก็จะผ่านไปได้ยาก จิตใจจะต้องดีพร้อมกันทั้งทีม
นิชิโนะ กล่าวปิดท้ายว่า เรื่องเกมอุ่นเครื่องนั้น การจะได้ลงเตะกับทีมชาติคงเป็นเรื่องที่ยาก ถ้าหากได้ระดับสโมสรมาก็ยังพอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง ซึ่งส่วนตัวอยากได้เกมอุ่นเครื่องก่อนแข่งสัก 1 สัปดาห์ จะเป็นผลดีกับทีมที่สุด
ด้าน เบิร์ก ฟาน มาร์ไวก์ กุนซือทีมยูเออี เปิดเผยว่า ตอนนี้ทีมกำลังลงตัวขึ้นเรื่อยๆ และการได้ลงเล่นในบ้านจาก 3 เป็น 4 นัดถือว่าได้เปรียบมากๆ และจะทำให้ทีมมีโอกาสเข้ารอบต่อไปได้
สำหรับสถานการณ์ในกลุ่มจีนั้น ช้างศึก อยู่อันดับ 3 ของกลุ่ม ลงเล่น 5 เกม มี 8 คะแนน ตามหลังจ่าฝูงอย่างเวียดนาม อยู่ถึง 3 คะแนนด้วยกัน โดยมีมาเลเซีย เป็นอันดับ 2 มี 9 คะแนน ส่วนเจ้าภาพยูเออี ลงเตะน้อยกว่า 1 นัด มีอยู่ 6 คะแนน ขณะที่อินโดนีเซีย ยังไม่มีคะแนน เป็นทีมเดียวที่ตกรอบไปแล้วแน่นอน ซึ่งจะคัดเอาแชมป์กลุ่ม เข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายทันที ส่วนอันดับ 2 จะคัดเอา 4 ทีมที่ดีที่สุดจาก 8 กลุ่ม เข้ารอบต่อไป และจะได้ตั๋วไปแข่งขันเอเชี่ยนคัพ 2023 ทันทีอีกด้วย