“ทัพลูกเด้งพาราไทย” ประกาศความพร้อมเต็มร้อย หลังเก็บตัวฝึกซ้อมมาอย่างยาวนานกว่า 4 ปีเต็ม ตั้งเป้าหมายเข้าชิงอย่างน้อย 2 รายการ
ความเคลื่อนไหวของทีมเทเบิลเทนนิสคนพิการทีมชาติไทย คว้าโควต้าเข้าร่วมการแข่งขันได้ถึง 12 คน ได้สิทธิ์ลงชิงชัยถึง 17 รายการ ซึ่งทั้งหมดเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลุยศึก “พาราลิมปิกเกมส์ 2020” อย่างเต็มที่
“รุ่งโรจน์ ไทยนิยม” นักตบลูกเด้งพาราหนุ่มทีมชาติไทย ดีกรีเหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ 2012 และ เหรียญทองแดง ปี 2016 เปิดเผยถึงความพร้อมของตนเองว่า “ที่ผ่านมาได้มีการเก็บตัวฝึกซ้อม และแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะติดปัญหาบ้างเล็กน้อยในช่วงสถานการณ์โควิด แต่เรายังสามารถฝึกซ้อมได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยความอนุเคราะห์ ของคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี รวมถึงสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย และ การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ให้การสนับสนุนและช่วยประสานงานและอำนวยความสะดวกให้กับนักกีฬาเทเบิลเทนนิสคนพิการอย่างเต็มมาโดยตลอด ทำให้เวลานี้เรามีสภาพร่างกายที่พร้อมพร้อมเกือบ 80 ถึง 90 เปอร์เซ็นแล้ว ส่วนเรื่องสภาพจิตใจเต็มร้อยที่จะลงแข่งขัน
“ส่วนเวลานี้เน้นซ้อมเรื่องเแท็คติก และเทคนิคต่างๆ ทั้งการเสิร์ฟ การรับลูกเสิร์ฟ หากสิ่งนี้ดีเราก็จะเป็นฝ่ายควบคุมเกมได้ เพราะในพาราลิมปิกเกมส์หนนี้ ต้องยอมรับว่าคู่แข่งแกร่งทุกคน ไม่ว่าจะเจอใครก็หนักหมด คู่แข่งที่น่ากลัวคงเป็น สเปน เพราะเจอกันที่ไรก็ผลัดกันแพ้ชนะมาตลอด แต่ที่ประมาทไม่ได้คือนักกีฬาหน้าใหม่จากโรมาเนีย เพราะเจอกัน 2-3 ครั้งหลังสุดก็ชนะแบบหืดจับทุกครั้ง”
นักตบลูกเด้งความหวังทีมชาติไทย กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องเป้าหมายในครั้งนี้ ไม่อยากกดดันตัวเอง เพราะทุกคนน่ากลัวหมด อย่างน้อยขอไปให้ถึงรอบรองชนะเลิศก่อน ซึ่งน่าจะติดเหรียญทองแดงเป็นอย่างน้อยแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามต้องขอกำลังใจจากแฟนกีฬาชาวไทยช่วยเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ในครั้งนี้ด้วย เพราะหลังจากจบโอลิมปิกเกมส์ ยังมี พาราลิมปิกเกมส์ ซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬาของคนพิการให้ชมกันต่อเลย แต่ผมอยากให้แฟนกีฬาชาวไทย ตัดคำว่าพิการออกไป ให้มองว่าเราเป็นคนเหมือนกัน และมีธงชาติไทย ติดที่หน้าอกเหมือนกัน และจะให้ทุกคนดูกีฬาคนพิการได้สนุกไม่แพ่กีฬาคนปกติอย่างแน่นอน
ขณะที่ ไมตรี คงเรือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทย เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมของทีมเทเบิลเทนนิสพาราทีมชาติไทย ชุดเตรียมลุยศึกพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ต้องบอกว่าเป็นเรื่องน่ายินดีมากเพราะในครั้งนี้เรามีนักกีฬากีฬาที่ได้โควต้าเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ถึง 12 คน และได้ลงแข่งขันถึง 17 รายการ ส่วนความพร้อมของนักกีฬาต้องบอกว่าเราพร้อมแบบเต็มร้อยเปอร์เซ็น เพราะที่ผ่านมาเรามีการเก็บตัวและออกไปแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง 4 ปีเต็ม ทำให้ทุกลงตัวและพร้อมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาก็ว่าได้
“ส่วนเป้าหมาย เราไม่อยากกดดันนักกีฬาว่าเราจะต้องกี่เหรียญทอง แต่สำหรับผมในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนค่อนข้ามีความมั่นใจว่าเรามีโอกาสเข้ารอบชิงฯอย่างน้อย 2 รายการ โดยเฉพาะในประเภทเดี่ยว คลาส TT 6 ของ รุ่งโรจน์ และ ประเภททีม คลาส TT 3 ที่มี อนุรักษ์ ลาววงษ์ กับ ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น ร่วมถึง คลาส TT6 – TT7 ที่มี เฉลิมพงษ์ พันภู่ กับ รุ่งโรจน์ ไทยนิยม ซึ่งน่าจะมีโอกาสเข้าไปลุ้นเหรียญทองมากที่สุด แต่อย่างไรดีต้องหากมองในภาพรวมในรายการอื่นก็มีโอกาสลุ้นเหรียญเช่นกันแต่เราต้องดูสายแข่งขันและผลการประกบคู่ของแต่ละรายการด้วยว่าเป็นอย่างไร เราจะสามารถคาดเดาได้มากขึ้น”
หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมเทเบิลเทนนิสคนพิการทีมชาติไทย กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ดีในครั้งนี้เราหวังว่าทีมปิงปองคนพิการทีมชาติไทย จะสามารถสร้างรอยยิ้ม ความสุข และแรงบันดาลใจให้กับคนไทย ในยามวิกฤติแบบนี้ได้บ้าง เลยขอเขิญชวนอยากให้แฟนกีฬาชาวไทย มาร่วมติดตามและชมการแข่งขันของนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย และพวกเราสัญญาว่าจะนำความสุขและร้อยยิ้มมาให้กับคนไทยด้วยเช่นกัน
สำหรับรายการชื่อนักกีฬาเทเบิลเทนนิสคนพิการทีมชาติไทย ทั้ง 12 คน มีดังนี้ ประเภทยืน 4 คน รุ่งโรจน์ ไทยนิยม (คลาส TT6), เฉลิมพงษ์ พันภู่ (คลาส TT7), พิสิษฐ์ หวังผลพัฒนสิริ (คลาส TT 8), คมกฤษณ์ จริตสัจ (คลาส TT 8) และประเภทนั่ง 8 คน อนุรักษ์ ลาววงษ์ (คลาส TT3), ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น (คลาส TT3), วันชัย ชัยวุฒิ (คลาส TT4), ถิรายุ เชื้อวงษ์ (คลาส TT2), ชิลชิตพยัค บุตรวรรณสิริณา (คลาสTT2), ดารารัตน์ อาสายุทธ์ (คลาส TT3), วิจิตรา ใจอ่อน ( คลาส TT4), ปานวาด ศรีงาม (คลาส TT5) โดยทั้งหมดจะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 17 สิงหาคม 2564